สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (31 มี.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการ รวมถึงการใช้จ่ายของผู้บริโภคเดือนก.พ. ที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดการณ์
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 3.2 ดอลลาร์ หรือ 0.26% ปิดที่ 1,251.2 ดอลลาร์/ออนซ์ และทะยานขึ้น 8.1% ในไตรมาสแรก
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 5 เซนต์ หรือ 0.27% ปิดที่ 18.256 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 3.3 ดอลลาร์ หรือ 0.35% ปิดที่ 952.40 ดอลลาร์/ออนซ์
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เนื่องจากวิตกกังวลกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประสบความล้มเหลวในการผลักดันร่างกฎหมายประกันสุขภาพ "อเมริกันเฮลธ์แคร์" ผ่านสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ
ความล้มเหลวดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนไม่มั่นใจว่า ประธานาธิบดีทรัมป์จะสามารถผลักดันร่างกฎหมายต่างๆให้มีผลบังคับใช้ได้หรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลักดันร่างงบประมาณให้ผ่านสภาคองเกรสภายในช่วงปลายเดือนเม.ย. เพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานราชการของสหรัฐ หรือ ชัตดาวน์
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ได้เสนองบประมาณมูลค่า 3.3 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อใช้ในการเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมและสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก-สหรัฐ โดยจำนวนเงินดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของงบประมาณที่จะช่วยให้หน่วยงานราชการของสหรัฐสามารถดำเนินการต่อไปได้ภายหลังเดือนเม.ย อย่างไรก็ตาม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวนหนึ่งได้แสดงความกังวลว่า ข้อเสนอของปธน.ทรัมป์อาจส่งผลให้เกิดการชัตดาวน์ เนื่องจากพรรคเดโมแครตปฏิเสธที่จะยอมรับข้อเสนอของรีพับลิกัน