สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 ก.ค.) โดยสัญญาทองคำปิดในแดนบวกติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังคงเป็นแรงกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำอย่างคึกคัก
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 8.2 ดอลลาร์ หรือ 0.66% ปิดที่ระดับ 1,241.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย.
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 16.9 เซนต์ หรือ 1.05% ปิดที่ระดับ 16.268 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ปิดทรงตัวที่ระดับ 930.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 1.15 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 864.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปิดในแดนบวกเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ โดยปัจจัยที่กดดันดอลลาร์ให้อ่อนค่าลงนั้น มาจากความวิตกของนักลงทุนเกี่ยวกับความสามารถของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการผลักดันนโยบายต่างๆตามที่เขาเคยให้คำมั่นไว้ โดยเฉพาะนโยบายการปรับลดภาษีครั้งใหญ่ โดยปธน.ทรัมป์เคยกล่าวไว้ว่า การยกเลิกกฎหมายโอบามาแคร์และแทนที่ด้วยกฎหมายประกันสุขภาพฉบับใหม่ที่เรียกว่า "อเมริกันเฮลธ์แคร์" นั้น จะต้องเกิดขึ้นก่อนที่รัฐบาลจะผลักดันนโยบายอื่นๆให้เดินหน้าได้ต่อไป
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ความล้มเหลวในการผลักดันนโยบายประกันสุขภาพของทรัมป์นั้น ได้สร้างความเคลือบแคลงให้กับนักลงทุนว่า ทรัมป์จะสามารถผลักดันนโยบายที่ส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจให้สำเร็จลุล่วงได้จริงหรือไม่ ซึ่งรวมไปถึงการปฏิรูประบบภาษีและการลงทุนในระบบโครงสร้างพื้นฐาน เนื่องจากการผ่อนคลายกฎเกณฑ์ต่างๆอาจต้องใช้เวลามากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ การร่วงลงของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ยังเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย