สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อคืนนี้ (22 ธ.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการที่บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงขยายตัวในระดับพอประมาณเท่านั้น ซึ่งหนุนกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจเดินหน้าคุมเข้มนโยบายอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีหน้า
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 8.20 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 1,278.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 20.5 เซนต์ หรือ 1.26% ปิดที่ 16.444 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 3.3 ดอลลาร์ หรือ 0.36% ปิดที่ 923 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 10 เซนต์ ปิดที่ 1,029.55 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปิดบวกจากปัจจัยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ ซึ่งหนุนกระแสคาดการณ์ว่า เฟดอาจเดินหน้าคุมเข้มนโยบายอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปี 2561
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ย. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนต.ค.
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PCE พื้นฐานเพิ่มขึ้น 1.5% ในเดือนพ.ย. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 1.4% ในเดือนต.ค.
ขณะที่การใช้จ่ายผู้บริโภคของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนพ.ย. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.5% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนต.ค.
หากมีการปรับค่าตามเงินเฟ้อ การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ย. หลังจากทรงตัวในเดือนต.ค.
ส่วนรายได้ส่วนบุคคลของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ย. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนต.ค.
ขณะที่ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้น 1.3% ในเดือนพ.ย. หลังจากลดลง 0.4% ในเดือนต.ค.
และยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐพุ่งขึ้นสวนทางคาดการณ์ในเดือนพ.ย. โดยดีดตัวขึ้น 17.5% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 733,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2550 หลังจากแตะระดับ 624,000 ยูนิตในเดือนต.ค.