สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (7 ก.พ.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้น ได้สร้างแรงกดดันต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดทองคำ และได้ฉุดสัญญาทองคำร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 4
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 14.90 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 1,314.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 34.2 เซนต์ หรือ 2.1% ปิดที่ 16.238 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ร่วงลง 12.6 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 981.7 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 17.95 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 984.55 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปิดตลาดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อคืนนี้ เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังคงสร้างแรงกดดันต่อตลาด โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.7% สู่ระดับ 90.196 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น จะลดความน่าดึงดูดของสัญญาทองคำ โดยทำให้สัญญามีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ตลาดทองคำยังได้รับปัจจัยลบจากการดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ โดยเมื่อคืนนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 2.796% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.068%
นอกจากนี้ กระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดไว้ในปีนี้ ยังคงเป็นปัจจัยที่สร้างแรงกดดันต่อตลาดทองคำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการแสดงความเห็นล่าสุดของนายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟดสาขาดัลลัส ซึ่งกล่าวว่า เฟดควรถอนตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปจากการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย เนื่องจากตลาดแรงงานที่ตึงตัวได้เพิ่มความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ