สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกคืนนี้ (9 มี.ค.) หลังได้รับอิทธิพลจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังการเปิดเผยข้อมูลตัวเลขจ้างงานของสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาด ขณะที่ค่าจ้างเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 2.3 ดอลลาร์ หรือ 0.17% ปิดที่ระดับ 1,324ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 10.8 เซนต์ หรือ 0.65% ปิดที่ 16.608 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 11.9 ดอลลาร์ หรือ 1.25% ปิดที่ 964.2 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 2.2% ปิดที่ 986.85 ดอลลาร์/ออนซ์
ราคาสัญญาทองคำปรับตัวขึ้นหลังกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือนก.พ. โดยพุ่งขึ้น 313,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 1 ปีครึ่ง ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 ปี
ขณะเดียวกัน ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 4 เซนต์/ชั่วโมง หรือ 0.15% โดยต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.2% สู่ระดับ 26.75 ดอลลาร์ และเพิ่มขึ้น 2.6% เมื่อเทียบรายปี ส่งผลให้นักลงทุนคลายความกังวลที่ว่าภาวะเงินเฟ้ออาจสูงขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขการจ้างงานในเดือนม.ค. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 239,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง และทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขจ้างงานในเดือนธ.ค. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 160,000 ตำแหน่ง
กระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่าในเดือนก.พ. ภาคเอกชนมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 287,000 ตำแหน่ง ขณะที่ภาครัฐจ้างงานเพิ่มขึ้น 26,000 ตำแหน่ง ขณะที่ตัวเลขอัตราการเข้าสู่ตลาดแรงงานของสหรัฐ ซึ่งแสดงสัดส่วนของกำลังแรงงานต่อจำนวนประชากรทั้งหมด เพิ่มขึ้นที่ระดับ 63%
ข้อมูลดังกล่าวนี้ ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนลง ซึ่งโดยปกติแล้ว ทองคำและเงินดอลลาร์จะเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามกัน เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนลงมักส่งผลให้นักลงทุนใช้เงินสกุลอื่นเข้าซื้อทองคำและโลหะมีค่า