สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (30 เม.ย.) โดยได้รับปัจจัยกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากมีรายงานว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญนั้น พุ่งขึ้นเกือบแตะระดับเป้าหมายของเฟด
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 4.2 ดอลลาร์ หรือ 0.32% ปิดที่ 1,319.2 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 9.6 เซนต์ หรือ 0.58% ปิดที่ 16.401 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 12 ดอลลาร์ หรือ 1.31% ปิดที่ 904.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 2.45 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 960.55 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.24% แตะระดับ 91.77 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่แข็งค่า จะลดความน่าดึงดูดของสัญญาทองคำ โดยทำให้สัญญามีราคาสูงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
สำหรับปัจจัยที่ทำให้ดอลลาร์แข็งค่านั้น มาจากรายงานของจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐซึ่งระบุว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พุ่งขึ้น 2.0% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปีที่แล้ว
ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ พุ่งขึ้น 1.9% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปีที่แล้ว และใกล้เคียงกับเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ของเฟด
นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 1-2 พ.ค.นี้ โดยมีการคาดการณ์ว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ และจะปรับขึ้นในการประชุมเดือนมิ.ย.