สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (9 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 5 โดยได้ปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน นอกจากนี้ การดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐยังสร้างแรงกดดันต่อตลาดทองคำเช่นกัน
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 70 เซนต์ หรือ 0.05% ปิดที่ 1,313 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 6.7 เซนต์ หรือ 0.41% ปิดที่ 16.539 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 4.5 ดอลลาร์ หรือ 0.49% ปิดที่ 916.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 7.20 ดอลลาร์ หรือเกือบ 0.8% ปิดที่ 970.60 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากดัชนีดาวโจนส์ยังคงปรับตัวในแดนบวกเมื่อคืนนี้ โดยได้ปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศนำสหรัฐถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาตามเวลาสหรัฐ และระบุว่าจะดำเนินการคว่ำบาตรต่ออิหร่านในระดับสูงสุด ซึ่งจะปูทางให้สหรัฐทำการคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่
นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายในตลาดทองคำยังได้รับแรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งขึ้นทะลุ 3% เมื่อคืนนี้ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 3.009% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.161%