สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 ก.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ การที่ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงเมื่อคืนนี้ ยังส่งผลให้นักลงทุนกลับเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยอีกครั้ง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. พุ่งขึ้น 11.80 ดอลลาร์ หรือ 0.95% ปิดที่ 1,253.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 20.8 เซนต์ หรือ 1.31% ปิดที่ 16.043 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 32.9 ดอลลาร์ หรือ 4.04% ปิดที่ 846.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 3.60 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 938.00 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.18% แตะที่ระดับ 94.70 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ โดยปกติแล้ว ราคาทองคำและดอลลาร์จะเคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงข้ามกัน โดยเมื่อดอลลาร์อ่อนค่าลง ราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าทำให้ทองคำซึ่งกำหนดราคาในรูปของสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
นอกจากนี้ การร่วงลงของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 130 จุดเมื่อคืนนี้ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งแรงขายที่ส่งเข้าฉุดหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากมีรายงานว่า หน่วยงานต่างๆของสหรัฐกำลังขยายขอบข่ายการสอบสวนกรณีที่บริษัทแคมบริดจ์ อนาลิติกามีส่วนเกี่ยวข้องกับการรั่วไหลของข้อมูลผู้ใช้เฟซบุ๊ก รวมทั้งข่าวที่ว่า ศาลจีนมีคำสั่งไม่ให้บริษัทไมครอน เทคโนโลยีส์ของสหรัฐ ขายชิปหน่วยความจำในสหรัฐเป็นการชั่วคราว