สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 ก.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร อันเนื่องมาจากข้อมูลแรงงานที่ซบเซาของสหรัฐ อย่างไรก็ตาม การที่ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ ส่งผลให้นักลงทุนจำนวนหนึ่งเทขายสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 5.30 ดอลลาร์ หรือ 0.42% ปิดที่ 1,258.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 5.4 เซนต์ หรือ 0.34% ปิดที่ 16.097 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 4.9 เซนต์ หรือ 0.58% ปิดที่ 841.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 4.7 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 942.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับปัจจัยหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.30% แตะที่ระดับ 94.13 ณ เวลา 24.12 น.เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ โดยปกติแล้ว ราคาทองคำและดอลลาร์จะเคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงข้ามกัน โดยเมื่อดอลลาร์อ่อนค่าลง ราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าทำให้ทองคำซึ่งกำหนดราคาในรูปของสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น
อย่างไรก็ตาม การดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งของดัชนีดาวโจนส์เมื่อคืนนี้ ส่งผลให้นักลงทุนจำนวนหนึ่งเทขายสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 180 จุด หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ส่งสัญญาณว่าจะยุติการเรียกเก็บภาษีรถยนต์จากยุโรป