สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ก.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนได้ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลลาร์
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 2.2 ดอลลาร์ หรือ 0.18% ปิดที่ 1,246.6 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 16.6 เซนต์ หรือ 1.01% ปิดที่ 15.977 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 11.4 ดอลลาร์ หรือ 1.37% ปิดที่ 846.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. พุ่งขึ้น 11.80 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 948.80 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) เปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐได้เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลลาร์ โดยจะเรียกเก็บในอัตรา 10% ซึ่งครอบคลุมถึงสินค้าจำนวน 6,031 รายการ ทั้งนี้ มาตรการครั้งล่าสุดจะมีผลบังคับใช้ในเดือนก.ย.
ทางด้านกระทรวงพาณิชย์จีนได้ออกแถลงการณ์ในวันเดียวกันว่า รัฐบาลจีนไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากจะใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อตอบโต้ จีนขอประท้วงการตัดสินใจของสหรัฐที่ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนรอบใหม่นี้ โดยระบุว่า เป็นการกระทำที่ไม่สามารถยอมรับได้อย่างสิ้นเชิง นอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์จีนกล่าวว่า การกระทำที่ไม่มีเหตุของสหรัฐนั้น ไม่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย และจีนจะนำเรื่องดังกล่าวฟ้องร้องต่อองค์การการค้าโลก (WTO)
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว สหรัฐได้เรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนกว่า 800 รายการ ในอัตรา 25% คิดเป็นมูลค่า 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่จีนก็ได้ตอบโต้ด้วยการเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐในวงเงินที่เท่ากัน