สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (19 ก.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้ลดความน่าดึงดูดของสัญญาทองคำ อย่างไรก็ตาม ตลาดทองคำได้รับปัจจัยหนุนในระหว่างวัน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แสดงความเห็นคัดค้านนโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 3.9 ดอลลาร์ หรือ 0.32% ปิดที่ 1,224.00 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 17.2 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 15.402 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 11.5 ดอลลาร์ หรือ 1.41% ปิดที่ 806.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 35.60 ดอลลาร์ หรือ 4% ปิดที่ 866.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากดอลลาร์ที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับยูโรและสกุลเงินหลักๆ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ดีดตัวขึ้น 0.04% แตะระดับ 95.110 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ โดยปกติแล้ว ราคาทองคำและดอลลาร์จะเคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงข้ามกัน โดยเมื่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ราคาทองคำจะปรับตัวลดลง เนื่องจากดอลลาร์ที่แข็งค่าทำให้ทองคำ ซึ่งกำหนดราคาในรูปของสกุลเงินดอลลาร์ มีราคาแพงขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม ตลาดทองคำได้รับปัจจัยหนุนในระหว่างวัน หลังจากปธน.ทรัมป์ได้แสดงความเห็นคัดค้านนโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน
ทั้งนี้ ในการให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าว CNBC ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า การดำเนินนโยบายของเฟดอาจกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยปธน.ทรัมป์กล่าว หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้ ซึ่งเขาได้ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในช่วงที่เหลือของปีนี้