สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (30 ก.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐที่ดีดตัวขึ้น ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดฉากการประชุมระยะเวลา 2 วันในวันที่ 31 ก.ค.- 1 ส.ค. อย่างไรก็ตาม การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ช่วยสกัดแรงลบของสัญญาทองคำในระหว่างวัน
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.2 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 1,231.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 4.4 เซนต์ หรือ 0.28% ปิดที่ 15.537 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 20 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 831.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 4 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 922.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 2.967% เมื่อคืนนี้ ก่อนที่การประชุมเฟดวันแรกจะเริ่มขึ้นในวันที่ 31 ก.ค.และเสร็จสิ้นลงในวันที่ 1 ส.ค.นี้ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ แต่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ ในการประชุมเดือนก.ย.และธ.ค.
ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า BOJ จะเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินในการประชุมวันที่ 30-31 ก.ค. โดยคาดว่า BOJ จะปรับลดการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน ซึ่งจะทำให้ช่องว่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างสหรัฐและญี่ปุ่นหดแคบลง
อย่างไรก็ตาม การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ช่วยสกัดแรงลบของตลาดทองคำในระหว่างวัน โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.42% แตะที่ระดับ 94.065 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ โดยปกติแล้ว ราคาทองคำและดอลลาร์จะเคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงข้ามกัน โดยเมื่อดอลลาร์อ่อนค่าลง ราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าทำให้ทองคำซึ่งกำหนดราคาในรูปของสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น