สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (28 ส.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า การพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งของดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐ จะเป็นปัจจัยที่สนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อไป
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.6 ดอลลาร์ หรือ 0.13% ปิดที่ 1,214.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 8.5 เซนต์ หรือ 0.57% ปิดที่ 14.774 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ร่วงลง 8.9 ดอลลาร์ หรือ 1.11% ปิดที่ 795.3 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 2.5 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 939.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปิดตลาดอ่อนแรงลง เนื่องจากนักลงทุนคาดว่า เฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีนี้ หลังจากผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวสู่ระดับ 133.4 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2543 จากระดับ 127.4 ในเดือนก.ค. และสวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นจะลดลงสู่ระดับ 126.7
ทั้งนี้ ดัชนีดังกล่าวเป็นการสำรวจมุมมองของผู้บริโภค และความเชื่อมั่นต่อสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน และในช่วง 6 เดือนข้างหน้า, สถานะการเงินส่วนบุคคล และการจ้างงาน
นอกจากนี้ ผลสำรวจพบว่า ผู้บริโภคที่มีมุมมองดีขึ้นต่อสภาวะเศรษฐกิจในช่วง 6 เดือนข้างหน้า มีจำนวนเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 24.3% จากระดับ 22.9% ในเดือนก.ค.
อย่างไรก็ตาม การปรับตัวลงของดัชนีดอลลาร์ได้ช่วยสกัดแรงลบของสัญญาทองคำ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.07% แตะระดับ 94.7128 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ โดยปกติแล้ว ราคาทองคำและดอลลาร์จะเคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงข้ามกัน โดยเมื่อดอลลาร์อ่อนค่าลง ราคาทองคำจะปรับตัวขึ้น เนื่องจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าทำให้ทองคำ ซึ่งกำหนดราคาในรูปของสกุลเงินดอลลาร์ มีราคาถูกลงสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ