สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (10 ก.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐจะผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำขยับลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยหนุนทองคำในระหว่างวัน
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 60 เซนต์ หรือ 0.05% ปิดที่ 1,199.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.1 เซนต์ หรือ 0.08% ปิดที่ 14.181 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 9.6 ดอลลาร์ หรือ 1.23% ปิดที่ 790 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 4.20 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 964.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปิดในแดนลบติดต่อกันสองวันทำการเมื่อคืนนี้ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ ซึ่งเร็วกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 201,000 ตำแหน่ง สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 191,000 ตำแหน่ง
อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าลงของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.22% แตะระดับ 95.14 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ โดยปกติแล้ว ราคาทองคำและดอลลาร์จะเคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงข้ามกัน โดยเมื่อดอลลาร์อ่อนค่าลง ราคาทองคำจะปรับตัวขึ้น เนื่องจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าทำให้ทองคำ ซึ่งกำหนดราคาในรูปของสกุลเงินดอลลาร์ มีราคาถูกลงสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ