ราคาทองฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้น จากอานิสงส์การอ่อนค่าของดอลลาร์

ราคาทองฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ในอัตราต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 10% ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.นี้ และจากนั้นจะเพิ่มเป็น 25% ตั้งแต่ช่วงต้นปีหน้า

ขณะที่รัฐบาลจีนได้ออกมาตอบโต้ด้วยการประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐในอัตราภาษี 5-10% คิดเป็นวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 24 ก.ย. อย่างไรก็ตาม อัตราภาษีดังกล่าวยังต่ำกว่าระดับ 20% ที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้

ณ เวลา 22.52 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเลกทรอนิกส์ ดีดตัวขึ้น 5.20 ดอลลาร์ หรือ 0.43% สู่ระดับ 1,208.10 ดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองร่วงลงราว 12% นับตั้งแต่เดือนเม.ย. โดยได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ

ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงจะเพิ่มความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวลงในวันนี้ ใกล้แตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ ขณะที่นักลงทุนมองว่าการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะไม่รุนแรงมากเท่ากับที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้

ณ เวลา 22.29 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.11% สู่ระดับ 112.24 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.03% สู่ระดับ 131.01 เยน และขยับขึ้น 0.07% สู่ระดับ 1.1675 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ลบ 0.09% สู่ระดับ 94.55 ใกล้กับระดับ 94.308 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนที่ทำไว้เมื่อวานนี้

ดอลลาร์พุ่งขึ้นเกือบ 6% นับตั้งแต่ที่สหรัฐและจีนเปิดฉากทำสงครามการค้า ขณะที่ตลาดการเงินมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง และอุปสงค์ดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจะเป็นปัจจัยหนุนดอลลาร์ให้ดีดตัวขึ้นต่อไป

อย่างไรก็ดี ดอลลาร์ชะลอตัวในสัปดาห์นี้ ขณะที่นักลงทุนไม่ต้องการผลักดันดอลลาร์ขึ้นต่อไป หลังจากมีการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐที่ต่ำกว่าคาด