สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 ต.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า คณะกรรมการเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 3.60 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,227.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 3.8 เซนต์ หรือ 0.26% ปิดที่ 14.663 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 6.1 ดอลลาร์ หรือ 0.72% ปิดที่ 840.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 6.30 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 1067.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับปัจจัยลบจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.41% แตะระดับ 95.48 เมื่อเวลา 24.23 น.ตามเวลาไทยเมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น จะลดความน่าดึงดูดของทองคำ โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นหลังจากรายงานการประชุมเฟดประจำวันที่ 25-26 ก.ย. ระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันว่า เฟดจำเป็นต้องเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนบางส่วนยังคงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและซาอุดีอาระเบีย กรณีการหายตัวไปของนายจามาล คาช็อกกี นักข่าวซาอุดีอาระเบีย ท่ามกลางกระแสข่าวว่ารัฐบาลซาอุดีอาระเบียอยู่เบื้องหลังการสังหารนายคาช็อกกี แต่ทางซาอุดีอาระเบียได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว