ราคาทองฟิวเจอร์ย่อตัวลงในวันนี้ โดยถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์
อย่างไรก็ดี การทรุดตัวของตลาดหุ้นสหรัฐ และแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า ได้ช่วยหนุนให้ราคาทองยังคงปรับตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน
นักลงทุนจับตาการประชุมเฟดในวันที่ 18-19 ธ.ค. โดยมีการคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 4 สำหรับปีนี้
ณ เวลา 00.16 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลบ 1.50 ดอลลาร์ หรือ 0.12% สู่ระดับ 1,251.10 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น จะลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นในวันนี้ สอดคล้องกับการดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
ณ เวลา 20.50 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.14% สู่ระดับ 112.88 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.37% สู่ระดับ 128.74 เยน และดีดตัวขึ้น 0.28% สู่ระดับ 1.1408 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.27% สู่ระดับ 96.77
นักลงทุนเทขายดอลลาร์ในช่วงแรก หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ต่ำกว่าคาดในเดือนพ.ย.
อย่างไรก็ดี ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นในเวลาต่อมา ตามการดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงอย่างต่อเนื่องในวันนี้ โดยล่าสุดทรุดตัวลงกว่า 400 จุด หลุดระดับ 24,000 จุด ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน
ณ เวลา 23.36 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 23,936.74 จุด ลดลง 425.21 จุด หรือ 1.74%
นักวิเคราะห์ระบุว่า ตลาดหุ้นได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบหลายประการ ซึ่งได้แก่ ความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน, การที่ศาลจีนตัดสินให้บริษัทแอปเปิล อิงค์ แพ้คดีการละเมิดสิทธิบัตรของควอลคอม, การที่รัฐบาลอังกฤษประกาศเลื่อนการลงมติในรัฐสภาต่อร่างข้อตกลงการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) อย่างไม่มีกำหนด รวมทั้งความวิตกต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ เมื่อพิจารณาจากการปรับตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ