สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ อันเนื่องมาจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ทรงตัวของสหรัฐ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 2.80 ดอลลาร์ หรือ 0.22% ปิดที่ 1,250.00 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 22.3 เซนต์ หรือ 1.52% ปิดที่ 14.851 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. พุ่งขึ้น 21.6 ดอลลาร์ หรือ 2.75% ปิดที่ 807.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 17.20 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 1,194.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.48% สู่ระดับ 96.99 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงนั้น จะเพิ่มความน่าดึงดูดของทองคำ โดยทำให้สัญญาทองคำมีราคาถูกลงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่นๆ
สำหรับปัจจัยที่ทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงนั้น มาจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดอาจชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทรงตัวในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวที่อ่อนแอที่สุดในรอบ 8 เดือน และสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนต.ค. นักลงทุนจับตาการประชุมเฟดในวันที่ 18-19 ธ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 4 สำหรับปีนี้ แต่จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า หลังการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ทรงตัว และการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ซบเซาในเดือนพ.ย.