สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (20 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงอย่างหนัก จากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา พร้อมส่งสัญญาณปรับขึ้นอีก 2 ครั้งในปีหน้า นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ด้วยเช่นกัน
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. พุ่งขึ้น 11.50 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 1,267.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 5.10 เซนต์ หรือ 0.34% ปิดที่ 14.869 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 20 เซนต์ ปิดที่ 795.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 9.40 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 1191.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เช่นหุ้น และหันเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงอย่างหนักติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ สืบเนื่องมาจากเฟดประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 2.25-2.50% ในการประชุมครั้งล่าสุด
ขณะเดียวกัน เฟดได้ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีหน้า ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นเพียง 1 ครั้ง หรืออาจจะไม่ปรับขึ้นเลยในปีหน้า
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.80% สู่ระดับ 96.263 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงนั้น จะเพิ่มความน่าดึงดูดของทองคำ โดยทำให้สัญญาทองคำมีราคาถูกลงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่นๆ