สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (31 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนส่งสัญญาณบวก โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ เปิดเผยว่า การพูดคุยการค้ากับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนนั้น มีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 1.70 ดอลลาร์ หรือ 0.13% ปิดที่ 1,281.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนตลอดปี 2561 สัญญาทองคำปรับตัวลงราว 2%
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 10.4 เซนต์ หรือ 0.67% ปิดที่ 15.54 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 4.20 ดอลลาร์ หรือ 0.53% ปิดที่ 800.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 13.80 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 1,197.20 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นซื้อสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ อันเนื่องมาจากสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐและจีนเริ่มส่งสัญญาณในด้านบวก โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ทวีตข้อความเปิดเผยถึงการสนทนากับผู้นำจีนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า การพูดคุยกินเวลานานและเป็นการพูดคุยที่ดีมาก พร้อมเผยว่า ข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีนมีความคืบหน้า
นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ที่หน่วยงานสหรัฐถูกปิดดำเนินงานเนื่องจากขาดงบประมาณ หรือชัตดาวน์ โดยรายงานล่าสุดระบุว่า สมาชิกพรรคเดโมแครตในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้วางแผนที่จะยุติภาวะชัตดาวน์ ด้วยการผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวโดยไม่รวมงบประมาณการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกวงเงิน 5 พันล้านดอลลาร์ตามที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เรียกร้อง
ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐวางแผนที่จะผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวในวันพฤหัสบดีที่ 3 ม.ค.ตามเวลาสหรัฐ ซึ่งเป็นวันที่พรรคเดโมแครตครองจะเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรอย่างเป็นทางการ โดยการผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวในครั้งนี้จะทำให้กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิมีงบประมาณในการดำเนินงานไปจนถึงวันที่ 8 ก.พ. นอกจากนี้ ร่างงบประมาณฉบับดังกล่าวยังรวมถึงการให้งบประมาณแก่หน่วยงานอื่นๆอีก 6 แห่งที่ถูกชัตดาวน์ ซึ่งรวมถึงกระทรวงเกษตร กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยและพื้นที่เขตเมือง