สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (5 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 3 นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังสร้างแรงกดดันต่อตลาดทองคำเช่นกัน
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 10 เซนต์ หรือ 0.01% ปิดที่ 1,319.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 5 เซนต์ หรือ 0.31% ปิดที่ 15.836 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 2.90 ดอลลาร์ หรือ 0.35% ปิดที่ 819.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 10.80 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 1341.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.23% แตะที่ระดับ 96.0661 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น จะลดความน่าดึงดูดของทองคำ โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เช่นหุ้น หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ อันเนื่องมาจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงราล์ฟ ลอเรน และเอสเต ลอเดอร์
นักลงทุนจับตาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีกำหนดแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) ต่อสภาคองเกรสสหรัฐในช่วงเช้าวันนี้เวลา 09.00 น.ตามเวลาไทย โดยคาดว่าทรัมป์จะกล่าวถึงความสำเร็จและผลงานของรัฐบาลในปีที่แล้ว และจะกล่าวถึงสิ่งที่เขาจะดำเนินการต่อไปในอีก 2 ปีที่เหลือของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี