ราคาทองฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้นในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
ณ เวลา 00.15 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. บวก 0.80 ดอลลาร์ หรือ 0.06% สู่ระดับ 1,315.20 ดอลลาร์/ออนซ์
แหล่งข่าวจากรัฐบาลสหรัฐเปิดเผยว่า การประชุมระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง มีแนวโน้มอย่างมากที่จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ทันเส้นตายวันที่ 1 มี.ค. ที่ทั้งสองฝ่ายกำหนดไว้สำหรับการบรรลุข้อตกลงทางการค้า
ทั้งนี้ หากทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าก่อนวันดังกล่าว ปธน.ทรัมป์ก็จะเดินหน้าเพิ่มการเรียกเก็บภาษีนำเข้าต่อสินค้าจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิม 10% ในขณะนี้
เจ้าหน้าที่ระบุว่า ถึงแม้ว่าผู้นำสหรัฐและจีนจะมีโอกาสพบกัน แต่ขณะนี้มีงานที่ต้องทำอย่างมาก ขณะที่เหลือเวลาน้อยเกินไปในการทำข้อตกลงกับจีน นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังต้องเตรียมการประชุมสุดยอดกับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ในช่วงปลายเดือนนี้
นายแลร์รี่ คุดโลว์ ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า เขาคาดว่าผู้นำสหรัฐและจีนจะพบปะกัน แต่กำหนดเวลา และสถานที่จัดการประชุมยังคงไม่มีความแน่นอน
นายคุดโลว์ยังกล่าวว่า สหรัฐหวังที่จะมีการทำข้อตกลงการค้ากับจีน แต่ยังคงมีงานต้องทำอีกมากก่อนที่จะสามารถบรรลุข้อตกลง
"ท่านประธานาธิบดีแสดงความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการบรรลุข้อตกลงการค้า แต่เรายังคงมีระยะทางอีกไกลที่ต้องเดินไป" นายคุดโลว์กล่าว
"เราได้เจรจากันในทุกประเด็น และมีการหารือกันในรายละเอียด ผมคิดว่าเรายังคงต้องเจรจากันต่อไป" เขากล่าว
คำกล่าวของนายคุดโลว์สวนทางกับการแสดงความเห็นของนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ ซึ่งกล่าวว่า การเจรจาการค้ากับจีนให้ผลลัพธ์ที่ดี
อย่างไรก็ดี นายมนูชินกล่าวเสริมว่า ยังคงมีอีกหลากหลายประเด็นที่จะเจรจากันต่อไป
คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (EU) ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของยูโรโซนในปีนี้ และปีหน้า จากการคาดการณ์ที่ว่าประเทศขนาดใหญ่ในยูโรโซนจะมีเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง โดยได้รับผลกระทบจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศ และหนี้ภาครัฐที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ EC คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจยูโรโซนจะมีการขยายตัว 1.3% ในปีนี้ ลดลงจากระดับ 1.9% ในปีที่แล้ว และคาดว่าจะดีดตัวสู่ระดับ 1.6% ในปีหน้า
ก่อนหน้านี้ EC คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจยูโรโซนจะมีการขยายตัว 1.9% ในปีนี้ และ 1.7% ในปีหน้า
นอกจากนี้ EC ยังคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของ EU ซึ่งไม่รวมสหราชอาณาจักร จะมีการขยายตัว 1.5% ในปีนี้ ลดลงจากระดับ 2.1% ในปีที่แล้ว และคาดว่าจะดีดตัวสู่ระดับ 1.8% ในปีหน้า
EC คาดว่าเศรษฐกิจของเยอรมนีจะมีการขยายตัว 1.1% ในปีนี้ ลดลงจากระดับ 1.5% ในปีที่แล้ว
EC ยังคาดว่าเศรษฐกิจของฝรั่งเศส อิตาลี สเปน และเนเธอร์แลนด์จะชะลอตัวลงเช่นกัน โดยอิตาลีชะลอตัวมากที่สุดสู่ระดับ 0.2% ในปีนี้
ทางด้านธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจอังกฤษในปีนี้ สู่ระดับ 1.2% จากเดิมที่ระดับ 1.7% โดยคาดว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวต่อไปในปีนี้ สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปี ขณะที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัย Brexit และการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
"การขยายตัวทางเศรษฐกิจได้ชะลอลงในช่วงปลายปีที่แล้ว และได้อ่อนตัวต่อไปในช่วงต้นปีนี้" BoE ระบุ
ขณะเดียวกัน BoE ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจอังกฤษในปีหน้า สู่ระดับ 1.5% จากเดิมที่ระดับ 1.7% ก่อนที่จะดีดตัวสู่ระดับ 1.9% ในปี 2564