สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 พ.ค.) โดยราคาทองปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน นอกจากนี้ ราคาทองยังได้ปัจจัยหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ด้วย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 2.20 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 1,287.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. บวก 1.7 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 14.79 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 14.20 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 865.6 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 67.70 ดอลลาร์ หรือ 5.3% ปิดที่ 1,350.70 ดอลลาร์/ออนซ์
ราคาทองดีดตัวขึ้นจากแรงซื้อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการที่สหรัฐได้ตัดสินใจปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากระดับ 10% โดยมีผลบังคับใช้ในทันที หลังจากที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐและจีนได้เสร็จสิ้นการเจรจาการค้าเมื่อวันพฤหัสบดี
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความในวันศุกร์ ระบุว่า ไม่มีความจำเป็นที่สหรัฐจะต้องเร่งเจรจาการค้ากับจีน เนื่องจากขณะนี้สหรัฐกำลังมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการขึ้นภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีน
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.2%
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงจะเป็นปัจจัยหนุนตลาดทองคำ เนื่องจากจะทำให้สัญญาทองคำมีราคาถูกลงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่นๆ