ราคาทองพุ่งขึ้นทะลุ 1,350 ดอลลาร์ในวันนี้ แตะระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน โดยได้คำสั่งซื้อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความตึงเครียดในตะวันออกกลาง และการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐและจีน
ทั้งนี้ ราคาทองสปอตพุ่งขึ้นแตะ 1,358.04 ดอลลาร์ในวันนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีที่แล้ว
ส่วนราคาทองในตลาดฟิวเจอร์ ณ เวลา 23.32 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ดีดตัวขึ้น 7.70 ดอลลาร์ หรือ 0.57% สู่ระดับ 1,351.40 ดอลลาร์/ออนซ์
ราคาทองพุ่งขึ้น 1.1% ในสัปดาห์นี้ และเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน
นอกจากนี้ ราคาทองยังได้ปัจจัยบวกจากการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และการอ่อนค่าของดอลลาร์ ซึ่งจะเพิ่มความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
นักลงทุนพากันเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากที่สหรัฐได้กล่าวหาว่าอิหร่านอยู่เบื้องหลังการโจมตีเรือบรรทุกน้ำมัน 2 ลำในช่องแคบฮอร์มุซเมื่อวานนี้ ขณะที่อิหร่านได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับตัวขึ้น 5% ในเดือนพ.ค.เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 17 ปี และชะลอตัวลงจากเดือนเม.ย.ที่มีการขยายตัว 5.4% และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 5.4%
ตลาดการเงินได้เพิ่มการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่อ่อนแอของสหรัฐ ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดหลายราย ซึ่งรวมถึงนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ก็ได้ส่งสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันที่ 18-19 มิ.ย.
อย่างไรก็ดี FedWatch ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์อัตราดอกเบี้ยสหรัฐของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 79% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนก.ค. และมีโอกาส 90% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. และมีโอกาส 97% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนธ.ค.