ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดลบ $1.9 นักลงทุนเทขายสินทรัพย์ปลอดภัยหลังตลาดหุ้นพุ่ง

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday June 20, 2019 06:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (19 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้นขานรับความหวังในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะแถลงมติการประชุม

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 1.9 ดอลลาร์ หรือ 0.14% ปิดที่ 1,348.8 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 3.5 เซนต์ หรือ 0.23% ปิดที่ 14.958 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 3.8 ดอลลาร์ หรือ 0.47% ปิดที่ 805.8 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. พุ่งขึ้น 19.30 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 1,492.60 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำปิดตลาดอ่อนแรงลง เนื่องจากการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องของตลาดหุ้นสหรัฐส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปซื้อสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า

นักลงทุนจับตาผลการประชุมเฟด โดยตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะแถลงมติการประชุม

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยล่าสุด นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) กล่าวว่า เขาจะเจรจาการค้ากับเจ้าหน้าที่จีน ก่อนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะพบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง นอกรอบการประชุมสุดยอดของกลุ่ม G20 ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 28-29 มิ.ย.

อย่างไรก็ดี นายไลท์ไฮเซอร์ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า การเจรจาดังกล่าวจะเริ่มขึ้นเมื่อใด

ทั้งนี้ การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนประสบความล้มเหลวในเดือนที่แล้ว โดยที่ประชุมไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้า ขณะที่สหรัฐได้เพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10% ส่งผลให้จีนทำการตอบโต้ ด้วยการเพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ