ราคาทองพุ่งนิวไฮ 5 ปี จ่อแตะ 1,400 ดอลลาร์ นักลงทุนแห่ซื้อทอง กังวลสหรัฐถล่มอิหร่าน

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday June 20, 2019 23:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ราคาทองพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 ปี โดยทะยานขึ้นกว่า 3% ใกล้แตะระดับ 1,400 ดอลลาร์ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนพากันเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่าน

นอกจากนี้ ราคาทองยังได้รับปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย

ณ เวลา 23.32 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ดีดตัวขึ้น 45.20 ดอลลาร์ หรือ 3.35% สู่ระดับ 1,394.00 ดอลลาร์/ออนซ์

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความในวันนี้ ระบุว่า อิหร่านได้ทำความผิดพลาดครั้งใหญ่ หลังจากที่ได้ยิงโดรนของสหรัฐตกเมื่อวานนี้

ต่อข้อถามของผู้สื่อข่าวที่ว่า สหรัฐจะทำการโจมตีอิหร่านหรือไม่ ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า "คุณจะรู้เองในไม่ช้า"

กองทัพสหรัฐเปิดเผยว่า โดรนของทางกองทัพได้ถูกขีปนาวุธของอิหร่านโจมตี ขณะบินอยู่เหนือน่านฟ้าสากลบริเวณช่องแคบฮอร์มุซ ขณะที่กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน (IRGC) ได้ออกมาตอบโต้ว่า โดรนดังกล่าวถูกยิงในน่านฟ้าของอิหร่านทางตอนใต้ของประเทศ

เหตุการณ์ดังกล่าวได้เพิ่มความตึงเครียดต่อความสัมพันธ์ของประเทศทั้งสอง หลังจากเกิดเหตุโจมตีเรือบรรทุกน้ำมัน 2 ลำเมื่อสัปดาห์ที่แล้วใกล้ช่องแคบฮอร์มุซ

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สหรัฐได้ส่งกำลังทหารอีก 1,000 นายไปยังตะวันออกกลาง หลังจากที่ได้ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด B-52 ไปยังภูมิภาคดังกล่าว

ขณะเดียวกัน ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ได้เพิ่มความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น

ดอลลาร์ร่วงลงในกรอบ 107 เยน แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. สอดคล้องกับการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ หลังจากที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งปีหลัง

ณ เวลา 19.43 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ร่วงลง 0.34% สู่ระดับ 107.72 เยน หลังจากแตะระดับ 107.67 เยนก่อนหน้านี้ ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.29% สู่ระดับ 121.67 เยน และดีดตัวขึ้น 0.63% สู่ระดับ 1.1295 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.41% สู่ระดับ 96.72

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีดิ่งลงต่ำกว่า 2% เป็นครั้งแรกในรอบ 31 เดือน หลังจากที่เฟดได้ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวานนี้ พร้อมกับส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งปีหลัง

ทั้งนี้ เฟดได้ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจ และการคาดการณ์เงินเฟ้อที่ลดลง

ท่ามกลางกรรมการเฟดทั้งหมด 17 ราย จำนวนเกือบครึ่งหนึ่งสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วง 6 เดือนข้างหน้า โดย 7 รายสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% จำนวน 2 ครั้งก่อนสิ้นปีนี้ ขณะที่ 1 รายสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% จำนวน 1 ครั้ง และ 1 รายสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% จำนวน 1 ครั้ง ส่วนอีก 8 รายคาดว่าไม่มีการปรับอัตราดอกเบี้ย

แถลงการณ์เฟดระบุว่า เฟดจะดำเนินการตามความเหมาะสม เพื่อรักษาการขยายตัวทางเศรษฐกิจให้ดำเนินต่อไป ขณะที่เศรษฐกิจกำลังมีการขยายตัวติดต่อกันเป็นปีที่ 10


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ