ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดพุ่ง $48.1 รับเฟดส่งสัญญาณลดดบ.,สถานการณ์อิหร่านหนุนแรงซื้อทอง

ข่าวเศรษฐกิจ Friday June 21, 2019 07:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเกือบ 4% เมื่อคืนนี้ (20 มิ.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่าน

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. พุ่งขึ้น 48.1 ดอลลาร์ หรือ 3.57% ปิดที่ 1,396.9 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2556

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 53.4 เซนต์ หรือ 3.57% ปิดที่ 15.492 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 20 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 805.6 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 12 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 1,480.60 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำพุ่งขึ้นหลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติ 9-1 เสียงในการคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 2.25-2.50% ในการประชุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา พร้อมกับส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจ และการคาดการณ์เงินเฟ้อที่ลดลง

ทั้งนี้ เฟดยังได้ตัดคำว่า "เฟดจะใช้ความอดทนก่อนที่จะมีการตัดสินใจปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ย" ออกจากแถลงการณ์การประชุมล่าสุด ซึ่งผิดไปจากที่เคยปรากฎในแถลงการณ์ฉบับก่อนหน้านี้ ซึ่งทำให้นักลงทุนมองว่า เฟดอาจส่งสัญญาณถึงความพร้อมที่จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมหากจำเป็น

นอกจากนี้ นักลงทุนยังแห่ซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่าน หลังจากกองทัพสหรัฐเปิดเผยว่า โดรนของทางกองทัพได้ถูกขีปนาวุธของอิหร่านโจมตี ขณะบินอยู่เหนือน่านฟ้าสากลบริเวณช่องแคบฮอร์มุซ ขณะที่กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน (IRGC) ได้ออกมาตอบโต้ว่า โดรนดังกล่าวถูกยิงในน่านฟ้าของอิหร่านทางตอนใต้ของประเทศ

เหตุการณ์ดังกล่าวได้เพิ่มความตึงเครียดต่อความสัมพันธ์ของประเทศทั้งสอง หลังจากเกิดเหตุโจมตีเรือบรรทุกน้ำมัน 2 ลำเมื่อสัปดาห์ที่แล้วใกล้ช่องแคบฮอร์มุซ ขณะที่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สหรัฐได้ส่งกำลังทหารอีก 1,000 นายไปยังตะวันออกกลาง หลังจากที่ได้ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด B-52 ไปยังภูมิภาคดังกล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ