ราคาทองฟิวเจอร์ร้อนแรงดีดตัวทำนิวไฮ 6 ปี ทะลุ 1,440 ดอลลาร์

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday June 26, 2019 01:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ราคาทองฟิวเจอร์ดีดตัวขึ้นในวันนี้แตะระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี โดยได้รับปัจจัยบวกจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่าน

ณ เวลา 01.29 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ดีดตัวขึ้น 8.30 ดอลลาร์ หรือ 0.59% สู่ระดับ 1,426.30 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากแตะระดับ 1,442.90 ดอลลาร์/ออนซ์ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค.2556

ราคาทองพุ่งขึ้นมากกว่า 8% ในเดือนนี้ และมากกว่า 9% ในไตรมาส 2 ส่งผลให้ราคาทองมีแนวโน้มทำสถิติพุ่งขึ้นในเดือนนี้ และไตรมาสนี้ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2559

FedWatch ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์อัตราดอกเบี้ยสหรัฐของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 100% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ค. หลังการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเฟดได้ตรึงอัตราดอกเบี้ย พร้อมกับส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

นอกจากนี้ FedWatch บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 64% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 2.00-2.25% ในเดือนก.ค. และมีโอกาส 36% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 1.75-2.00% ในเดือนดังกล่าว

ขณะเดียวกัน ตลาดยังจับตาการพบปะกันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง นอกรอบการประชุม G20 ที่ญี่ปุ่นในสัปดาห์นี้

นายหวัง โส่วเหวิน รมช.พาณิชย์จีน กล่าวว่า คณะเจรจาการค้าของจีนกำลังหารือกับตัวแทนจากทางสหรัฐเกี่ยวกับการแก้ไขความขัดแย้งทางการค้าก่อนการพบปะกันระหว่างประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการประชุม G20

นายหวังระบุว่า ทั้งสองฝ่ายต้องการสร้างความคืบหน้าจากการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างผู้นำของจีนและสหรัฐในสัปดาห์ที่แล้ว

การประชุมสุดยอด G20 จะมีขึ้นที่นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 28-29 มิ.ย.

ทั้งนี้ กลุ่ม G20 ประกอบด้วย อาร์เจนตินา ออสเตรเลีย บราซิล สหราชอาณาจักร แคนาดา จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี อินเดีย อินโดนีเซีย อิตาลี ญี่ปุ่น เม็กซิโก รัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย แอฟริกาใต้ เกาหลีใต้ ตุรกี สหรัฐ และสหภาพยุโรป

การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนประสบความล้มเหลวในเดือนที่แล้ว โดยที่ประชุมไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้า ขณะที่สหรัฐได้เพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10% ส่งผลให้จีนทำการตอบโต้ ด้วยการเพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10%

นอกจากนี้ สหรัฐได้ขึ้นบัญชีดำบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ทำให้บริษัทไม่สามารถซื้อสินค้าจากสหรัฐ และสหรัฐยังได้เพิ่มรายชื่อบริษัทจีนอีก 5 แห่งเข้าไปในบัญชีดำดังกล่าวในสัปดาห์ที่แล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ