ราคาทองมีแนวโน้มทำสถิติพุ่งขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 3 ปีในสัปดาห์นี้ ขณะที่ยังคงยืนเหนือ 1,500 ดอลลาร์ในวันนี้ ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ซึ่งจะเพิ่มความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ณ เวลา 22.59 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ดีดตัวขึ้น 5.10 ดอลลาร์ หรือ 0.34% สู่ระดับ 1,514.60 ดอลลาร์/ออนซ์
ราคาทองทะยานขึ้นมากกว่า 100 ดอลลาร์ในสัปดาห์นี้ หรือราว 4.3% ขณะที่พุ่งขึ้น 17% นับจากต้นปีนี้
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวในวันนี้ว่า สหรัฐจะตัดความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ แต่สิ่งนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลง หากสหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับจีน
"เรากำลังเจรจาการค้ากับจีน และเรายังไม่พร้อมทำข้อตกลง แต่เราจะดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป" ปธน.ทรัมป์กล่าว
นักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะยังคงยืดเยื้อต่อไป และไม่มีแนวโน้มที่ทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีหน้า
"ข่าวที่ออกมานับตั้งแต่ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่เรียกเก็บภาษีต่อสินค้าจีนเพิ่มขึ้น ได้บ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนต่างมีจุดยืนที่แข็งกร้าว และเราไม่คาดว่าทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีหน้า" นายแจน แฮตซิอุซ หัวหน้านักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ ระบุในรายงาน
"ก่อนหน้านี้เราคาดการณ์ว่า ปธน.ทรัมป์หวังบรรลุข้อตกลงเพื่อทำให้เขามีความได้เปรียบในการเลือกตั้งปีหน้า แต่ตอนนี้เราไม่คาดว่าเขามีมุมมองเช่นนี้" รายงานระบุ
โกลด์แมน แซคส์เปิดเผยว่า มีรายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่จีนมีท่าทีแข็งกร้าวในการเจรจา และหวังรอจนกว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเสร็จสิ้นในปีหน้า ก่อนที่จะทำการคลี่คลายข้อพิพาททางการค้า สิ่งนี้จึงทำให้สหรัฐและจีนไม่มีแนวโน้มที่จะบรรลุข้อตกลงการค้าในเร็วๆนี้
ทั้งนี้ สื่อรายงานว่า ทำเนียบขาวได้ชะลอการตัดสินใจเกี่ยวกับการออกใบอนุญาตให้กับบริษัทสหรัฐที่ต้องการทำธุรกิจกับบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ หลังจากจีนได้ระงับการซื้อสินค้าเกษตรของสหรัฐ
นายวิลเบอร์ รอสส์ รมว.พาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า บริษัทสหรัฐราว 50 แห่งได้ยื่นขอทำธุรกิจกับหัวเว่ย ซึ่งเขาได้ชะลอการตัดสินใจในเรื่องดังกล่าว
ทั้งนี้ บริษัทสหรัฐต้องได้รับใบอนุญาตพิเศษเพื่อขายสินค้าให้กับหัวเว่ย หลังจากรัฐบาลสหรัฐขึ้นบัญชีดำหัวเว่ยในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา โดยอ้างถึงความวิตกด้านความมั่นคงของประเทศ
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้เปิดเผยเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา หลังยอมระงับการทำสงครามการค้าชั่วคราวกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง โดยกล่าวว่า สหรัฐอาจผ่อนคลายข้อจำกัดต่อหัวเว่ย แต่ขึ้นอยู่กับการที่จีนต้องเพิ่มการซื้อสินค้าเกษตรของสหรัฐ ซึ่งปธน.ทรัมป์ระบุว่า จีนยังไม่ได้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าว
ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนรุนแรงขึ้น หลังปธน.ทรัมป์ระบุว่า เขาจะเก็บภาษีนำเข้า 10% จากสินค้าจีนวงเงิน 3 แสนล้านดอลลาร์ในวันที่ 1 ก.ย.นี้ และกระทรวงการคลังสหรัฐได้ระบุอย่างเป็นทางการว่า จีนเป็นประเทศที่ปั่นค่าเงิน ขณะที่จีนก็ได้ตอบโต้ด้วยการปล่อยให้หยวนอ่อนค่าลงต่ำกว่าระดับ 7 หยวนต่อดอลลาร์ แตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปี และรัฐบาลจีนยังได้สั่งให้บริษัทของรัฐระงับการนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐ