ราคาทองฟิวเจอร์พุ่งกว่า 1% จากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะกังวลเจรจาการค้า

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday August 27, 2019 23:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ราคาทองฟิวเจอร์ดีดตัวขึ้นกว่า 1% ในวันนี้ โดยนักลงทุนพากันเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

นอกจากนี้ ราคาทองยังได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์

ณ เวลา 23.36 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ดีดตัวขึ้น 15.80 ดอลลาร์ หรือ 1.03% สู่ระดับ 1,553.00 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง จะเพิ่มความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น

ดอลลาร์อ่อนค่าหลุดระดับ 106 เยนในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนซื้อขายอย่างระมัดระวัง ท่ามกลางความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังถูกกดดันจากการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในวันนี้ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 30 ปี ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 2.00% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 14 ส.ค.

ณ เวลา 22.42 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ร่วงลง 0.27% สู่ระดับ 105.83 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.37% สู่ระดับ 117.36 เยน และอ่อนค่า 0.12% สู่ระดับ 1.1087 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.05% สู่ระดับ 98.03

นายเกิง ชวง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวยืนยันในวันนี้ว่า เขาไม่ได้รับทราบข่าวที่ว่า เจ้าหน้าที่จีนได้โทรศัพท์ 2 ครั้งมายังเจ้าหน้าที่สหรัฐเพื่อเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายกลับมาเจรจาการค้า ตามที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวอ้าง

นายเกิงกล่าวยืนยันไม่ทราบเรื่องดังกล่าวเป็นครั้งที่ 2 ในวันนี้ หลังจากที่เขาได้กล่าวปฏิเสธเมื่อวานนี้

"เป็นที่น่าเสียใจที่สหรัฐยังคงเพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีน สิ่งนี้จะส่งผลกระทบต่อทั้งสองฝ่าย และไม่สร้างสรรค์" นายเกิงกล่าว

ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวในที่ประชุม G7 วานนี้ว่า เขาเชื่อว่าจีนมีความจริงใจ และมีความต้องการอย่างมากที่จะทำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐ

ปธน.ทรัมป์ยังระบุว่า "ผมไม่แน่ใจว่าจีนมีทางเลือกอื่น นอกจากทำข้อตกลงกับสหรัฐ ไม่ว่าพวกเขาต้องการหรือไม่ก็ตาม ผมไม่ได้พูดเช่นนี้เพื่อเป็นการข่มขู่จีน"

นอกจากนี้ ต่อข้อถามที่ว่า จีนได้ปฏิเสธคำกล่าวของปธน.ทรัมป์เกี่ยวกับคำกล่าวอ้างที่ว่าจีนได้โทรศัพท์ไปยังเจ้าหน้าที่การค้าสหรัฐ เพื่อขอกลับสู่โต๊ะเจรจา ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า "ทางการจีนไม่ได้กล่าวเช่นนั้น"

ปธน.ทรัมป์กล่าวย้ำว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐได้มีการสนทนาทางโทรศัพท์กับเจ้าหน้าที่ในระดับสูงสุดของจีน อย่างไรก็ดี ปธน.ทรัมป์ไม่ได้ระบุรายละเอียดดังกล่าว

ทั้งนี้ จีนแสดงความกังขาต่อการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวอ้างว่า จีนได้โทรศัพท์ติดต่อสหรัฐเพื่อเรียกร้องให้กลับสู่โต๊ะเจรจา

นายหู สีจิน บรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ โกลบอล ไทมส์ของจีน ทวีตข้อความ ยืนยันว่า คณะเจรจาการค้าจากทั้งสองฝ่ายไม่ได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์แต่อย่างใด

"เท่าที่ผมทราบ เจ้าหน้าที่เจรจาการค้าจากจีนและสหรัฐไม่ได้สนทนากันทางโทรศัพท์ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา โดยทั้งสองฝ่ายติดต่อกันในระดับเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิค และไม่ได้มีความสำคัญมากอย่างที่ปธน.ทรัมป์พูดไว้ โดยจีนยังคงไม่ได้เปลี่ยนแปลงจุดยืน และไม่ได้ยอมแพ้ต่อแรงกดดันจากสหรัฐ" นายหูกล่าว

ทางด้านปธน.ทรัมป์กล่าวก่อนหน้านี้ว่า "เมื่อคืนนี้ จีนได้โทรศัพท์มาหาเจ้าหน้าที่เจรจาการค้าระดับสูงของเรา และพูดว่า 'ให้เรากลับสู่โต๊ะเจรจา' ดังนั้น เราจะกลับสู่โต๊ะเจรจา ซึ่งผมคิดว่าพวกเขาต้องการทำบางสิ่งบางอย่าง"

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลงในวันนี้ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 30 ปี ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 2.00% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 14 ส.ค.

นอกจากนี้ ตลาดพันธบัตรสหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี อยู่สูงกว่าพันธบัตรอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นการบ่งชี้ถึงแนวโน้มการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ทั้งนี้ ตลาดพันธบัตรสหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve หลายครั้งในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ขณะที่นักลงทุนวิตกว่า การทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน จะส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ