สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยที่สร้างแรงกดดันต่อตลาดทองคำ ขณะเดียวกันนักลงทุนซื้อขายอย่างระมัดระวัง ก่อนการเปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนก.ย.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในสัปดาห์นี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 50 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 1,503.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 16 เซนต์ หรือ 0.91% ปิดที่ 17.7 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.8 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 890.1 ดอลลาร์/ออนซ์
ส่วนสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 4.40 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,650.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เนื่องจากดอลลาร์ที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ยังคงเป็นปัจจัยที่สร้างแรงกดดันต่อตลาดทองคำ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวขึ้น 0.21% แตะที่ระดับ 98.18 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่แข็งค่าได้ลดความน่าดึงดูดของทองคำ เนื่องจากทำให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ที่ถือครองเงินสกุลอื่นๆ
นักลงทุนจับตารายงานการประชุมประจำวันที่ 17-18 ก.ย.ของคณะกรรมการเฟดในวันพุธนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในปีนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังติดตามการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางวิตกกังวลว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในสัปดาห์นี้อาจประสบความล้มเหลว หลังจากสหรัฐประกาศระงับการออกวีซ่าให้กับเจ้าหน้าที่จีนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกดขี่ชาวมุสลิมในมณฑลซินเจียง
การประกาศระงับวีซ่าเจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนมีขึ้นเพียงวันเดียวหลังจากสหรัฐได้ประกาศขึ้นบัญชีดำต่อบริษัทเทคโนโลยีของจีน 28 แห่ง โดยอ้างว่าบริษัทเหล่านี้ได้ละเมิดสิทธิมนุษยชนของชาวมุสลิมในเขตปกครองตนเองซินเจียง ขณะที่ทางการจีนประกาศว่าจะตอบโต้สหรัฐในเรื่องนี้ พร้อมกับเรียกร้องให้สหรัฐยุติการแทรกแซงกิจการภายในของจีน