ราคาทองฟิวเจอร์ย่อตัว ขณะเผชิญแรงขายสินทรัพย์ปลอดภัย หลังคลายกังวลสงครามการค้า

ข่าวต่างประเทศ Wednesday December 4, 2019 23:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ราคาทองฟิวเจอร์ย่อตัวลงในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนหันไปซื้อหุ้น และพากันเทขายทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังมีข่าวว่า สหรัฐและจีนใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรก

ณ เวลา 23.23 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ร่วงลง 5.80 ดอลลาร์ หรือ 0.39% สู่ระดับ 1,478.60 ดอลลาร์/ออนซ์

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวระบุว่า สหรัฐและจีนกำลังใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรก แม้ความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายประสบความตึงเครียดเกี่ยวกับกรณีของฮ่องกงและซินเจียง

แหล่งข่าวระบุว่า สหรัฐและจีนใกล้ที่จะเห็นพ้องกันเกี่ยวกับการยกเลิกอัตราภาษีนำเข้าสินค้าในการทำข้อตกลงการค้าเฟสแรก

เจ้าหน้าที่รายหนึ่ง ซึ่งไม่ประสงค์ออกนาม กล่าวว่า การแสดงความเห็นของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เมื่อวานนี้ ไม่ควรถูกนำมาตีความว่าการเจรจาการค้าได้สะดุดลง เนื่องจากปธน.ทรัมป์กล่าวโดยไม่มีการเตรียมตัวมาก่อน

ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ส่งสัญญาณวานนี้ว่า การบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจล่าช้าออกไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย.ปีหน้า

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่อีกรายหนึ่งกล่าวว่า การที่สภาคองเกรสสหรัฐออกกฎหมายคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่จีนในกรณีละเมิดสิทธิมนุษยชนในฮ่องกงและซินเจียง จะไม่มีผลกระทบต่อการเจรจาการค้า

เจ้าหน้าที่ยังกล่าวว่า คณะเจรจาการค้าของสหรัฐมีความหวังว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับจีนก่อนที่สหรัฐมีกำหนดเรียกเก็บภาษี 15% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 1.56 แสนล้านดอลลาร์ในวันที่ 15 ธ.ค.

ขณะนี้ สหรัฐและจีนยังคงหารือกันในประเด็นการหาแนวทางรับประกันว่าจีนจะซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐตามที่ตกลงกันไว้ และรายละเอียดของอัตราภาษีนำเข้าสินค้าที่จะมีการยกเลิก

ทางด้านปธน.ทรัมป์กล่าวในวันนี้ว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนกำลังดำเนินไปอย่างดีมาก

"การหารือกำลังดำเนินไปอย่างดีมาก และเราจะดูว่าเกิดอะไรขึ้นต่อไป" ปธน.ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวในการประชุมสุดยอดขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ใกล้กรุงลอนดอน

นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า โดยนักวิเคราะห์คาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ หลังจากที่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยติดต่อกัน 3 ครั้งในปีนี้

นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐในวันศุกร์นี้

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ในวันศุกร์นี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 187,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. หลังการกลับเข้าทำงานของพนักงานบริษัทเจเนอรัล มอเตอร์ (GM) ที่ได้ผละงานก่อนหน้านี้ ส่วนอัตราการว่างงานคาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 3.6% ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี

ก่อนหน้านี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 128,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค.

อย่างไรก็ดี ตัวเลขคาดการณ์การจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนพ.ย.ดังกล่าว มีขึ้นก่อนการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนที่ซบเซาในวันนี้ ส่งผลให้นักวิเคราะห์อาจมีการปรับลดตัวเลขคาดการณ์การจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนพ.ย. ก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานในวันศุกร์นี้

ทั้งนี้ ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยในวันนี้ว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 67,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 150,000 ตำแหน่ง

นอกจากนี้ ADP ได้ปรับลดตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนในเดือนต.ค.สู่ระดับ 121,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่ระดับ 125,000 ตำแหน่ง

การจ้างงานในภาคบริการเพิ่มขึ้น 85,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ส่วนการจ้างงานในภาคการผลิตลดลง 18,000 ตำแหน่ง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ