สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (27 ม.ค.) โดยทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 6 ปี เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลที่ว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก นอกจากนี้ การร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นสหรัฐ ยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนคำสั่งซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 5.50 ดอลลาร์ หรือ 0.35% ปิดที่ 1,577.40 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย. 2556
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 5.7 เซนต์ หรือ 0.31% ปิดที่ 18.056 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 18.90 ดอลลาร์ หรือ 1.87% ปิดที่ 991.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 142.70 ดอลลาร์ หรือ 6.2% ปิดที่ 2,173.60 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนยังคงเดินหน้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากเชื้อไวรัสโคโรนาซึ่งมีต้นตอมาจากเมืองอู่ฮั่นของจีนนั้น กำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว โดยล่าสุดคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) ระบุว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาในจีนเพิ่มขึ้นเป็น 81 ราย และจำนวนผู้ติดเชื้อในจีนเพิ่มขึ้นเป็น 2,862 ราย ขณะเดียวกันมีการยืนยันพบผู้ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวเพิ่มขึ้นในอีกหลายประเทศ ซึ่งรวมถึงสหรัฐ
นอกจากนี้ การร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นสหรัฐยังเป็นปัจจัยหนุนคำสั่งซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย โดยดัชนีดาวโจนส์ และดัชนีหลักๆของตลาดหุ้นนิวยอร์ก ต่างก็ร่วงลงกว่า 1% เมื่อคืนนี้ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาได้ฉุดหุ้นกลุ่มสายการบิน ธุรกิจโรงแรม และสถานกาสิโน ดิ่งลงอย่างหนัก
อย่างไรก็ดี สกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าส่งผลให้ราคาทองคำลดช่วงบวก โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวขึ้น 0.13% สู่ระดับ 98 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่แข็งค่าจะทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้น และมีความน่าดึงดูดน้อยลงสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น