สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 8 ในวันพุธ (16 ส.ค.) และทำสถิติปิดในแดนลบที่ยาวนานที่สุดในรอบกว่า 6 ปี เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐยังคงส่งผลกระทบต่อการซื้อขายในตลาด
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 6.90 ดอลลาร์ หรือ 0.36% ปิดที่ 1,928.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค.
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 12.10 เซนต์ หรือ 0.53% ปิดที่ 22.535 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 90 เซนต์ หรือ 0.10% ปิดที่ 891.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 26.20 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 1,212.40 ดอลลาร์/ออนซ์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 4.241% เมื่อคืนนี้ ซึ่งจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
นักลงทุนรอดูรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ประจำวันที่ 25-26 ก.ค. โดยตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการ FOMC จะเผยแพร่รายงานการประชุมดังกล่าว
หลังจากตลาดปิดทำการได้ไม่นาน คณะกรรมการ FOMC ได้เปิดเผยรายงานการประชุมซึ่งระบุว่า กรรมการเฟดส่วนหนึ่งได้แสดงความกังวลว่าการที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากเกินไปนั้นอาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญกับความเสี่ยง ในขณะที่กรรมการเฟดส่วนใหญ่ยังคงให้ความสำคัญกับการควบคุมเงินเฟ้อ โดยกล่าวว่าแม้เงินเฟ้อเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวลง แต่ก็ยังคงอยู่สูงกว่าเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%
ทั้งนี้ หลังจากเฟดเปิดเผยรายงานการประชุม ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ดีดตัวขึ้น 0.22% แตะที่ 103.4350 และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นอีก