สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันจันทร์ (4 ธ.ค.) โดยถูกกดดันจากการที่เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้น
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ร่วงลง 47.50 ดอลลาร์ หรือ 2.27% ปิดที่ 2,042.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 95 เซนต์ หรือ 3.67% ปิดที่ 24.907 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 11 ดอลลาร์ หรือ 1.18% ปิดที่ 925.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 29.70 ดอลลาร์ หรือ 2.94% ปิดที่ 980.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปรับตัวลงอย่างรวดเร็วหลังแตะระดับสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ที่ 2,144.60 ดอลลาร์ โดยการแข็งค่าของดอลลาร์และการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐกดดันสัญญาทองคำ
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.54% แตะที่ระดับ 103.67
การแข็งค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาที่ไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ ขณะที่การดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยในวันจันทร์ (4 ธ.ค.) ว่า คำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐลดลง 3.6% ในเดือนต.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 2.3% ในเดือนก.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า คำสั่งซื้อภาคโรงงานลดลงเพียง 3.5% ในเดือนต.ค.
บรรดานักลงทุนจับตาการเปิดเผยรายงานการจ้างงานของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนพ.ย.ในวันศุกร์นี้ (8 ธ.ค.)
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 150,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.9% ในเดือนพ.ย.