สัญญาทองแดงตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (6 ส.ค.) เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์มองว่าแนวโน้มใหญ่ยังคงถูกกดดันอย่างหนักจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ ที่อาจทำให้ตลาดโลกปั่นป่วน
สัญญาทองแดงตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 2.70 เซนต์ หรือ +0.62% ปิดที่ 4.4130 ดอลลาร์/ปอนด์
ปัจจัยหนุนมาจากการที่ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.61% แตะที่ระดับ 98.177 ทำให้สัญญาทองแดงซึ่งซื้อขายเป็นดอลลาร์มีราคาถูกลงสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น
อย่างไรก็ดี ปัจจัยที่นักลงทุนจับตามากกว่าคือผลพวงจากการที่รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ประกาศยกเว้นภาษีนำเข้าทองแดงบริสุทธิ์ (Refined Copper) สูงถึง 50% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่า สต๊อกทองแดงมหาศาลที่เก็บไว้ในสหรัฐฯ อาจทะลักออกไปทุ่มตลาดโลก
ความกังวลดังกล่าวได้รับการตอกย้ำจากรายงานล่าสุดของ BCA Research ที่ระบุว่า การดิ่งลงของราคาทองแดงที่เกิดจากการยกเว้นภาษีครั้งนี้ "ยังไม่จบ" เนื่องจากสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับภาวะทองแดงล้นสต๊อกอย่างหนัก และอาจเปลี่ยนสถานะจากผู้นำเข้า กลายเป็นผู้ส่งออกเสียเอง ซึ่งจะยิ่งซ้ำเติมให้ราคาทองแดงในตลาดโลกดิ่งลงไปอีก
นอกจากนี้ BCA ยังเตือนว่า การที่สหรัฐฯ ยังคงเก็บภาษีกับสินค้าสำเร็จรูปที่ทำจากทองแดง อาจทำให้ความต้องการใช้สินค้าเหล่านี้ลดลง ซึ่งจะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่มาถึงความต้องการใช้ทองแดงดิบของโรงงานในต่างประเทศด้วย
ในภาพรวม BCA มองว่าแนวโน้มราคาทองแดงกำลังสะท้อนภาพเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอลง ทั้งในด้านการค้าและภาคการผลิต ซึ่งถือเป็นปัจจัยลบที่เข้ามากดดันราคาทองแดงเพิ่มเติมในระยะสั้น
ท่ามกลางข่าวร้ายเหล่านี้ BCA Research กลับระบุว่า การปรับตัวลงของราคาทองแดงตามวัฏจักรในช่วงนี้ จะเปิดโอกาสทองให้นักลงทุนสามารถเข้าสะสมทองแดงในราคาที่น่าดึงดูดสำหรับการลงทุนในระยะยาวได้ในที่สุด