ออสเตรเลียเตรียมส่งตัวแทนจากบริษัทเหมืองแร่สำคัญ (critical minerals) มากกว่า 20 แห่ง รวมถึงไนร์สตาร์ (Nyrstar) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของทราฟิกูรา (Trafigura) เดินทางไปยังสหรัฐอเมริกาในสัปดาห์หน้า เพื่อสำรวจแนวทางความร่วมมือ โดยคณะผู้แทนที่นำโดยคณะกรรมาธิการการค้าและการลงทุนของออสเตรเลีย (Austrade) มีกำหนดเข้าพบเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่มหานครนิวยอร์กและกรุงวอชิงตัน
การเดินทางครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่นายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบาเนซี ของออสเตรเลีย และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เพิ่งหารือกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเกี่ยวกับโอกาสที่บริษัทแร่สำคัญของทั้งสองประเทศจะร่วมมือกันมากขึ้น
ก่อนหน้านี้ ทางออสเตรเลียได้แสดงเจตจำนงขอพบกับปธน.ทรัมป์ ขณะที่นายกฯ อัลบาเนซีจะเดินทางเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติที่นิวยอร์กในปลายเดือนนี้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการประกาศกำหนดการพบกันอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ ออสเตรเลียพยายามวางตัวเป็นผู้จัดจำหน่ายแร่สำคัญให้แก่พันธมิตรตะวันตก เพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานทางเลือกแทนที่จีน ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ กำลังเตรียมงบประมาณเพื่อขยายอุตสาหกรรมแบตเตอรี่และกลาโหม โดยมีรายงานว่ารัฐบาลทรัมป์กำลังพิจารณาโยกย้ายงบประมาณอย่างน้อย 2 พันล้านดอลลาร์จาก CHIPS Act ซึ่งสนับสนุนการวิจัยเซมิคอนดักเตอร์และการก่อสร้างโรงงานผลิตชิป ไปเป็นการลงทุนในโครงการแร่สำคัญ
ไนร์สตาร์ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลออสเตรเลียให้ศึกษาความเป็นไปได้ในการผลิตแร่สำคัญ 4 ชนิดจากโรงถลุงเก่า 2 แห่ง รวมถึงแร่พลวง (antimony) ที่ใช้ทำกระสุน และถูกจีนจำกัดการส่งออก แต่ยังต้องการเงินทุนเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการตามแผน โดยการประชุมครั้งนี้ยังถือเป็นโอกาสในการทำความเข้าใจลำดับความสำคัญของรัฐบาลสหรัฐฯ และสร้างความสัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งเปิดโอกาสในการเข้าถึงเงินทุน
บริษัทเหมืองแร่อื่น ๆ ที่จะเข้าร่วมประชุม ได้แก่ พิลบารา มิเนอรัลส์ (Pilbara Minerals) ผู้ผลิตลิเทียมรายใหญ่ที่สุดของออสเตรเลียที่ส่งออกไปจีนและเกาหลีใต้เป็นหลัก, อินเตอร์เนชันแนล กราไฟต์ (International Graphite) ที่กำลังพัฒนาศักยภาพการแปรรูปจากเหมืองกราไฟต์ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย และโคบอลต์ บลู (Cobalt Blue) ที่กำลังพัฒนาโครงการโคบอลต์ในโบรเคนฮิลล์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ โดยโฆษกของทั้งสามบริษัทยืนยันว่า ตัวแทนของบริษัทจะเข้าร่วมประชุมในสัปดาห์หน้า
อย่างไรก็ตาม ดอน ฟาร์เรล รัฐมนตรีการค้าของออสเตรเลีย และ มาเดอลีน คิง รัฐมนตรีทรัพยากรของออสเตรเลีย ไม่ได้ร่วมเดินทางไปกับคณะผู้แทนดังกล่าว
ทั้งนี้ ออสเตรเลียมีความร่วมมือด้านแร่สำคัญกับสหรัฐฯ อยู่แล้ว และตามกฎหมายที่ผ่านความเห็นชอบเมื่อปลายปี 2566 ระบุว่า แหล่งแร่ของออสเตรเลียถือว่าเป็นซัพพลายในประเทศสำหรับการจัดซื้อจัดจ้างด้านกลาโหมของสหรัฐฯ