สัญญาทองแดงตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (1 ต.ค.) โดยมีปัจจัยหนุนจากปัญหาอุปทานในเหมืองหลายแห่งที่ยังคงยืดเยื้อ ประกอบกับค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงหลังหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ต้องปิดทำการชั่วคราวเนื่องจากขาดงบประมาณ หรือ ชัตดาวน์
สัญญาทองแดงตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.60 เซนต์ หรือ +0.54% ปิดที่ 4.8825 ดอลลาร์/ปอนด์
ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.07% แตะที่ 97.706 หลังจากที่ดิ่งลงแตะระดับ 97.54 ในระหว่างวัน
ทั้งนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ทำให้สัญญาทองแดงซึ่งกำหนดราคาเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐมีราคาถูกลงและมีความน่าดึงดูดมากขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น
ขณะที่ตลาดจีนซึ่งเป็นผู้บริโภคทองแดงรายใหญ่ของโลก ปิดทำการยาวเนื่องในเทศกาลวันชาติ ตั้งแต่วันที่ 1-8 ต.ค.
บริษัทหลักทรัพย์ ซัคเดน ไฟแนนเชียล (Sucden Financial) ให้ความเห็นว่า การที่ตลาดจีนปิดทำการอาจส่งผลให้ตลาดโดยรวมมีความผันผวนมากขึ้นในช่วงไม่กี่วันข้างหน้านี้ โดยทิศทางราคามีแนวโน้มจะปรับตัวสูงขึ้น
ซัคเดน ไฟแนนเชียล ยังชี้ว่า การประกาศเหตุสุดวิสัย (Force Majeure) ที่เหมืองกราสเบิร์ก (Grasberg) ในอินโดนีเซียของบริษัทฟรีพอร์ต-แมคโมแรน (Freeport-McMoRan) เมื่อสัปดาห์ก่อน เป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ราคาทะลุกรอบเดิมได้สำเร็จ
นอกจากนี้ สถานการณ์ด้านอุปทานยังน่ากังวลมากขึ้น หลังจากสหภาพแรงงานระดับหัวหน้างานที่เหมืองทองแดงลอส เปอลัมเบรส (Los Pelambres) ในชิลี ของบริษัทอันโตฟากัสตา (Antofagasta) ได้ปฏิเสธข้อเสนอสัญญาจ้างฉบับใหม่ ซึ่งอาจนำไปสู่การนัดหยุดงานประท้วงในไม่ช้า
ขณะเดียวกัน ผลผลิตทองแดงของชิลี ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดของโลกในเดือนส.ค. ได้ลดลงถึง 9.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ถือเป็นการลดลงที่รุนแรงที่สุดในรอบกว่า 2 ปี ซึ่งเป็นผลพวงจากอุบัติเหตุที่เหมืองหลักของบริษัทโคเดลโก (Codelco) เมื่อปลายเดือนก.ค.