สัญญาทองแดงตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันศุกร์ (31 ต.ค.) หลังจากจีน ซึ่งเป็นประเทศผู้ใช้ทองแดงรายใหญ่ของโลก เปิดเผยว่าภาคการผลิตหดตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้ทองแดง นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อตลาดทองแดง
สัญญาทองแดงตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.5 เซนต์ หรือ -0.3% ปิดที่ 5.0890 ดอลลาร์/ปอนด์
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานเมื่อวันศุกร์ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตลดลงสู่ระดับ 49.0 ในเดือนต.ค. จากระดับ 49.8 ในเดือนก.ย. โดยดัชนี PMI เดือนต.ค.ถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 49.6 บ่งชี้ว่ารัฐบาลจีนจำเป็นต้องเร่งออกมาตรการกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศ
ทั้งนี้ กิจกรรมด้านการผลิตของจีนยังคงอยู่ในภาวะหดตัวนับตั้งแต่เดือนเม.ย. หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ประกาศใช้มาตรการภาษีศุลกากร ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อโรงงานต่าง ๆ ของจีน และส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ทั่วโลก
การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนชะลอลงสู่ระดับ 4.8% ในไตรมาส 3/2568 ซึ่งเป็นการขยายตัวช้าที่สุดในรอบ 1 ปี โดยแม้ว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะเติบโตตามเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่ประมาณ 5% ในปีนี้ แต่นักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจเกี่ยวกับการฟื้นตัวของความต้องการสินค้าจีนในตลาดต่างประเทศ อันเนื่องมาจากสถานการณ์ตึงเครียดด้านการค้าที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น
ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.28% แตะที่ 99.804 เมื่อวันศุกร์
ทั้งนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาทองแดงซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาที่ไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ