สัญญาทองแดงตลาดนิวยอร์กปรับตัวลดลงในการซื้อขายเมื่อวานนี้ (12 พ.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังเอริค โรเซนเกรน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาบอสตันได้ออกมาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐนั้นส่งผลให้ทองแดงนิวยอร์กมีราคาสูงขึ้นสำหรับผู้ถือเงินสกุลอื่นๆ จนทำให้ความต้องการลดลงตาม
สัญญาทองแดงตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.ค. ปรับตัวลดลง 2.9 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 2.0745 ดอลลาร์/ปอนด์
ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนหลังจากนายเอริค โรเซนเกรน ประธานเฟดสาขาบอสตัน กล่าวว่า ตลาดการเงินกำลังประเมินต่ำเกินไปเกี่ยวกับช่วงจังหวะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด และมองในแง่ลบมากเกินไปเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ
นายโรเซนเกรนกล่าวเสริมว่า เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากตัวเลขเศรษฐกิจดีขึ้นตามที่คาดการณ์ไว้
นักวิเคราะห์กล่าวว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลให้นักลงทุนหันมาถือครองสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งจะส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 20,000 ราย สู่ระดับ 294,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 พ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ของปีที่แล้ว โดยสหรัฐเป็นประเทศที่มีการใช้ทองแดงมากสุดเป็นอันดับสองของโลก