ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันพุธ (18 มิ.ย.) สัญญาธัญพืชปรับตัวขึ้นทั้งกระดาน โดยสัญญาข้าวสาลีพุ่งขึ้นมากกว่า 4% ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสภาพอากาศในบางพื้นที่ของสหรัฐฯ และยุโรป รวมถึงสัญญาณที่ว่าอาจมีการสั่งซื้อข้าวสาลีจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น ทำให้นักลงทุนเก็งกำไรที่เคยเปิดสถานะขาย (short) ต้องปิดสถานะเพื่อจำกัดความเสียหาย
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 2 เซนต์ หรือ +0.46% ปิดที่ 4.3350 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 25.25 เซนต์ หรือ +4.60% ปิดที่ 5.7425 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 0.75 เซนต์ หรือ +0.07% ปิดที่ 10.7475 ดอลลาร์/บุชเชล
สัญญาข้าวโพดและถั่วเหลืองก็ปรับตัวขึ้นเช่นกัน ก่อนที่ตลาดการเงินสหรัฐฯ จะปิดทำการในวันพฤหัสบดี (19 มิ.ย.) เนื่องในวันหยุด Juneteenth Day
สัญญาข้าวสาลีปรับตัวขึ้นมากที่สุด โดยนักลงทุนรายใหญ่อย่างกองทุนสินค้าโภคภัณฑ์ยังคงถือสถานะขายสุทธิในสัญญาข้าวสาลี CBOT เป็นจำนวนมาก ทำให้ตลาดมีแนวโน้มในการดีดตัวกลับจากการปิดสถานะขาย
นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า แอลจีเรียเพิ่งซื้อข้าวสาลีมากกว่าครึ่งล้านตันในการประมูลสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ ฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวสาลีฤดูหนาวของสหรัฐฯ กำลังเริ่มต้นอย่างล่าช้าเนื่องจากสภาพอากาศเปียกชื้น ขณะที่บางพื้นที่ในรัสเซียและสหภาพยุโรปประสบปัญหาความแห้งแล้ง
สัญญาถั่วเหลืองปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อย ขณะที่ความต้องการน้ำมันถั่วเหลืองในประเทศที่เพิ่มขึ้นได้ช่วยบรรเทาความกังวลเกี่ยวกับการส่งออกถั่วเหลืองของสหรัฐฯ ที่อาจลดลงจากความตึงเครียดทางการค้ากับจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้าถั่วเหลืองรายใหญ่ที่สุดของโลก
สัญญาข้าวโพดปรับขึ้นตามข้าวสาลี ท่ามกลางความกังวลเรื่องอุปทานตึงตัวจากการเก็บเกี่ยวข้าวโพดฤดูกาลที่แล้วของสหรัฐฯ
ขณะนี้นักลงทุนกำลังรอดูทิศทางตลาดจากรายงานยอดส่งออกรายสัปดาห์ของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) ซึ่งจะเผยแพร่ในวันศุกร์นี้ โดยช้ากว่ากำหนดปกติหนึ่งวัน เนื่องจากเป็นวันหยุด Juneteenth ของสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดีนี้