ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันจันทร์ (14 ก.ค.) ราคาข้าวโพดดีดตัวขึ้น โดยนักลงทุนเข้าช้อนซื้อของถูกและซื้อคืนเพื่อปิดสถานะชอร์ต (short covering) โดยแรงซื้อดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ราคาร่วงลงแตะระดับต่ำสุดของสัญญา ซึ่งเป็นผลมาจากความคาดหวังว่าสหรัฐฯ จะมีผลผลิตออกมาในปริมาณมาก
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 5.75 เซนต์ หรือ +1.39% ปิดที่ 4.1800 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 3.50 เซนต์ หรือ -0.64 % ปิดที่ 5.4150 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 0.25 เซนต์ หรือ -0.02% ปิดที่ 10.0700 ดอลลาร์/บุชเชล
ขณะเดียวกัน สัญญาถั่วเหลืองเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นสัญญาที่มีการซื้อขายคึกคักที่สุด ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน ก่อนดีดตัวกลับมาปิดตลาดเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย
สภาพอากาศที่เอื้ออำนวยในสหรัฐฯ ยังคงเป็นปัจจัยกดดันตลาดข้าวโพดและถั่วเหลือง และกระตุ้นให้เกิดการคาดการณ์ว่าจะได้ผลผลิตปริมาณมหาศาลในช่วงการเก็บเกี่ยวฤดูใบไม้ร่วง โดย Commodity Weather Group ระบุว่า ปริมาณฝนในสัปดาห์นี้จะช่วยลดความแห้งแล้งในภูมิภาคมิดเวสต์ ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกที่สำคัญ
หลังตลาดปิดทำการ กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) รายงานว่า 74% ของผลผลิตข้าวโพดทั่วประเทศอยู่ในเกณฑ์ "ดีถึงดีเยี่ยม" ไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ก่อนและสอดคล้องกับการคาดการณ์
สำหรับถั่วเหลือง USDA ประเมินว่า 70% ของผลผลิตอยู่ในเกณฑ์ "ดีถึงดีเยี่ยม" เพิ่มขึ้น 4 จุดเปอร์เซ็นต์จากสัปดาห์ก่อน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 67%
อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงจับตาการขู่ขึ้นภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ท่ามกลางความกังวลว่าประเทศผู้นำเข้าอาจตอบโต้ด้วยการจำกัดการซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ข้อมูลศุลกากรที่รวบรวมโดยสำนักข่าวรอยเตอร์ชี้ว่า จีนซึ่งเป็นผู้ซื้อถั่วเหลืองรายใหญ่ที่สุดของโลกนำเข้าถั่วเหลืองในเดือนมิ.ย. ด้วยปริมาณสูงเป็นประวัติการณ์ โดยได้รับแรงหนุนจากปริมาณการขนส่งที่พุ่งสูงขึ้นจากบราซิล ซึ่งเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ในวันอังคารนี้ (15 ก.ค.) สมาคมผู้แปรรูปเมล็ดพืชน้ำมันแห่งชาติ (NOPA) จะรายงานตัวเลขการบีบสกัดน้ำมันถั่วเหลืองของสหรัฐฯ ในเดือนมิ.ย. ว่าลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน แต่ถึงกระนั้น ก็ยังคงเป็นปริมาณการบีบสกัดในเดือนมิ.ย. ที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์อยู่ดี ซึ่งเป็นผลจากการขยายกำลังการผลิตของโรงงานในสหรัฐฯ