ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันพุธ (16 ก.ค.) สัญญาถั่วเหลืองพุ่งสูงขึ้นจากความหวังด้านอุปสงค์การส่งออกของสหรัฐฯ ขณะที่ราคาข้าวโพดปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน โดยเป็นการฟื้นตัวจากระดับราคาต่ำสุดของสัญญาเมื่อไม่นานมานี้
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 4.25 เซนต์ หรือ +1.01% ปิดที่ 4.2400 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 3.25 เซนต์ หรือ +0.60% ปิดที่ 5.4125 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 18.75 เซนต์ หรือ +1.87% ปิดที่ 10.2050 ดอลลาร์/บุชเชล
การปรับตัวขึ้นครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากช่วงก่อนหน้าที่ราคาธัญพืชทั้งสองชนิดถูกกดดันจากสภาพอากาศในสหรัฐฯ ที่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูก และการคาดการณ์ว่าจะได้ผลผลิตในปริมาณมหาศาล โดยกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) เพิ่งยืนยันเมื่อวันจันทร์ (14 ก.ค.) ว่า การประเมินคุณภาพผลผลิตข้าวโพดและถั่วเหลืองของสหรัฐฯ ในช่วงกลางเดือนก.ค. นั้น อยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2559
ปัจจัยบวกในวันพุธได้รับแรงหนุนจาก 2 ประเด็นสำคัญ ประการแรก USDA รายงานว่า ผู้ส่งออกได้ขายถั่วเหลืองของสหรัฐฯ จำนวน 120,000 เมตริกตันให้กับผู้ซื้อที่ไม่เปิดเผยชื่อ ซึ่งบรรดาเทรดเดอร์คาดการณ์ว่าผู้ซื้อรายดังกล่าวอาจเป็นประเทศจีน ผู้นำเข้าถั่วเหลืองรายใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งกำลังสั่งซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ ล่าช้ากว่าปกติ ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้า
ประการที่สอง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นผู้นำเข้าถั่วเหลืองสหรัฐฯ รายใหญ่ติด 1 ใน 5 ของโลก ได้ให้คำมั่นว่าจะซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ มูลค่า 4.5 พันล้านดอลลาร์