ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันอังคาร (12 ส.ค.) สัญญาข้าวโพดดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดของสัญญา หลังจากกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) คาดการณ์ว่าผลผลิตข้าวโพดในปีนี้จะสูงเป็นประวัติการณ์ทุบสถิติ เนื่องจากเกษตรกรได้เพิ่มพื้นที่เพาะปลูกมากกว่าที่คาดไว้ ประกอบกับผลผลิตเผชิญปัญหาจากสภาพอากาศน้อยมากในช่วงฤดูร้อนนี้
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 13.25 เซนต์ หรือ -3.25% ปิดที่ 3.9450 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 10.00 เซนต์ หรือ -1.94% ปิดที่ 5.0500 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 21.50 เซนต์ หรือ +2.13% ปิดที่ 10.3275 ดอลลาร์/บุชเชล
ในทางกลับกัน สัญญาถั่วเหลืองพลิกกลับมาปิดในแดนบวก หลังจาก USDA ได้คาดการณ์ในรายงานอุปทานและอุปสงค์พืชผลรายเดือนว่า ผลผลิตของสหรัฐฯ จะน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้และอุปทานจะตึงตัวขึ้น เนื่องจากเกษตรกรลดพื้นที่เพาะปลูกลงจากที่เคยประเมินไว้
ส่วนสัญญาข้าวสาลีปรับตัวลงตามทิศทางของสัญญาข้าวโพด ทำสถิติต่ำสุดใหม่ของสัญญาทุกเดือนเช่นกัน ท่ามกลางแรงกดดันจากปริมาณอุปทานในตลาดโลกที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก
ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า USDA จะปรับเพิ่มแนวโน้มผลผลิตต่อไร่ของทั้งข้าวโพดและถั่วเหลืองเนื่องจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยในช่วงฤดูร้อน แต่การที่ USDA ได้ปรับเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดอย่างมหาศาลและปรับลดพื้นที่เพาะปลูกถั่วเหลืองลงอย่างมาก ได้สร้างความประหลาดใจให้กับตลาด
"สิ่งที่น่าประหลาดใจที่สุด คือการปรับเปลี่ยนพื้นที่เพาะปลูกของ USDA โดยได้หั่นพื้นที่เพาะปลูกถั่วเหลืองลงถึง 2.5 ล้านเอเคอร์ และนำพื้นที่ 2.1 ล้านเอเคอร์ไปเพิ่มให้กับการเพาะปลูกข้าวโพด ซึ่งยิ่งเป็นการเพิ่มปริมาณผลผลิตที่คาดว่าจะสูงเป็นพิเศษอยู่แล้ว" อาร์ลัน ซูเดอร์มาน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์สินค้าโภคภัณฑ์ของ StoneX กล่าว
USDA คาดการณ์ผลผลิตข้าวโพดเฉลี่ยของสหรัฐฯ ที่ 188.8 บุชเชลต่อเอเคอร์ (bpa) และคาดว่าจะมีปริมาณผลผลิตรวม 1.6742 หมื่นล้านบุชเชล ซึ่งทั้งสองตัวเลขเป็นสถิติสูงสุดตลอดกาลและสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้มาก
ส่วนผลผลิตถั่วเหลืองต่อไร่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 53.6 บุชเชลต่อเอเคอร์ แต่ปริมาณผลผลิตรวมคาดว่าจะสูงเป็นอันดับที่ 6 เท่าที่เคยมีมา ที่ 4.292 พันล้านบุชเชล