ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันจันทร์ (18 ส.ค.) สัญญาถั่วเหลืองและข้าวโพดเคลื่อนไหวผันผวน ท่ามกลางการจับตารอผลสำรวจผลผลิตพืชผลประจำปีของ Pro Farmer ในแถบมิดเวสต์สัปดาห์นี้ ขณะที่สัญญาข้าวสาลีปรับตัวลงจากแรงขายทางเทคนิค
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.25 เซนต์ หรือ +0.31% ปิดที่ 4.0650 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2.00 เซนต์ หรือ -0.38% ปิดที่ 5.2500 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 1.25 เซนต์ หรือ -0.12% ปิดที่ 10.4125 ดอลลาร์/บุชเชล
การสำรวจดังกล่าวมีขึ้นเพื่อประเมินผลผลิตข้าวโพดและศักยภาพการผลิตถั่วเหลืองใน 7 รัฐของสหรัฐฯ หลังจากกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) เพิ่งคาดการณ์เมื่อสัปดาห์ก่อนว่าผลผลิตข้าวโพดปีนี้จะสูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งการคาดการณ์ว่าผลสำรวจจะยืนยันตัวเลขผลผลิตจำนวนมากนั้น ยังเป็นอีกปัจจัยที่กดดันราคาสัญญา
นอกจากนี้ สัญญาทั้งสองยังเผชิญแรงกดดันจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยในสหรัฐฯ และความกังวลต่ออุปสงค์การส่งออกที่ซบเซา ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าที่ยืดเยื้อระหว่างสหรัฐฯ กับจีนซึ่งเป็นผู้ซื้อรายใหญ่
แม้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะเรียกร้องให้จีนเพิ่มการซื้อถั่วเหลืองขึ้นถึงสี่เท่า แต่ยังคงไร้ความคืบหน้าในการเจรจาการค้า ส่งผลให้ผู้ส่งออกถั่วเหลืองของสหรัฐฯ พลาดโอกาสในการขายสินค้าให้แก่จีน
ด้านสถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อตลาดข้าวสาลี ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่าพร้อมที่จะผลักดันให้สงครามกับรัสเซียยุติลง ก่อนหน้าการเดินทางเยือนกรุงวอชิงตันเพื่อเจรจากับปธน.ทรัมป์ โดยขณะนี้ผู้นำจากยุโรปได้เดินทางถึงทำเนียบขาวแล้ว ทั้งนี้ ยูเครนและรัสเซียถือเป็นผู้ส่งออกธัญพืชรายใหญ่ของโลก