ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันพุธ (20 ส.ค.) สัญญาถั่วเหลืองและข้าวโพดเคลื่อนไหวผันผวน ขณะที่บรรดาเทรดเดอร์เฝ้าจับตาผลการสำรวจพื้นที่เพาะปลูกในแถบมิดเวสต์ของสหรัฐฯ ซึ่งผลเบื้องต้นได้ยืนยันถึงแนวโน้มของปริมาณผลผลิตที่แข็งแกร่ง
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. ปิดบวก 0.75 เซนต์ หรือ +0.19% ปิดที่ 4.0400 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค. ปิดบวก 7.00 เซนต์ หรือ +1.34% ปิดที่ 5.2825 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. ปรับตัวสูงขึ้น 2.25 เซนต์ หรือ +0.22% ปิดที่ 10.3600 ดอลลาร์/บุชเชล
ผลการสำรวจในวันที่สองของคณะสำรวจ Pro Farmer Crop Tour แสดงให้เห็นว่า ศักยภาพผลผลิตข้าวโพดในรัฐอินดีแอนาอยู่ในเกณฑ์สูงสุดในรอบ 22 ปี แม้จำนวนฝักถั่วเหลืองจะต่ำกว่าระดับของปี 2567 เล็กน้อย ขณะที่รัฐเนแบรสกามีจำนวนฝักถั่วเหลืองสูงสุดในรอบอย่างน้อย 22 ปี และมีแนวโน้มผลผลิตข้าวโพดดีที่สุดในรอบ 4 ปี
ทั้งนี้ การสำรวจประจำปีดังกล่าวถูกจับตามองเป็นพิเศษในปีนี้ ภายหลังจากที่กระทรวงเกษตรของสหรัฐฯ (USDA) ได้เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ผลผลิตข้าวโพดสำหรับปี 2568 ซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้เป็นอันมาก โดยชัค เชลบี ประธานบริษัท Risk Management Commodities กล่าวว่า "สิ่งที่คณะสำรวจได้พบเห็นนั้น สอดคล้องกับข้อมูลที่ทาง USDA ได้เผยแพร่ออกมา"
ตลาดถั่วเหลืองยังได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากสัญญาซื้อขายกากถั่วเหลืองที่ทะยานตัวสูงขึ้น อันเนื่องมาจากการหยุดซ่อมบำรุงตามกำหนดของโรงงานสกัดน้ำมันและอุปสงค์การส่งออกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ เมื่อวันอังคาร (19 ส.ค.) บรรดาเกษตรกรผู้ปลูกถั่วเหลืองของสหรัฐฯ ได้ยื่นจดหมายเรียกร้องให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เร่งบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับจีน ซึ่งต้องครอบคลุมถึงข้อตกลงการสั่งซื้อถั่วเหลืองในปริมาณที่มีนัยสำคัญ
ในส่วนของสัญญาข้าวสาลีได้ฟื้นตัวขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นจากแนวรับทางเทคนิค หลังจากที่ราคาได้ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดของสัญญา อย่างไรก็ดี ภาพรวมราคาข้าวสาลียังคงเคลื่อนไหวอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี โดยถูกกดดันจากอุปทานในตลาดโลกที่อยู่ในระดับสูง ท่ามกลางการปรับเพิ่มคาดการณ์ผลผลิตของรัสเซีย ขณะเดียวกัน ความหวังเกี่ยวกับความคืบหน้าในการเจรจายุติสงครามในยูเครน ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กดดันราคา แม้ขั้นตอนถัดไปของการเจรจายังไม่แน่นอน