ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันพฤหัสบดี (11 ก.ย.) สัญญาธัญพืชปิดบวกทั้งกระดาน โดยสัญญาข้าวสาลีขยับขึ้นจากแรงซื้อคืน แม้อุปทานโลกที่ล้นตลาดยังคงกดดันราคา
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.75 เซนต์ หรือ +0.66% ปิดที่ 4.1975 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 6.50 เซนต์ หรือ +1.26% ปิดที่ 5.2150 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 8.25 เซนต์ หรือ +0.80% ปิดที่ 10.3350 ดอลลาร์/บุชเชล
กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) คาดว่าจะรายงานตัวเลขสต๊อกข้าวสาลีสหรัฐฯ ลดลงเล็กน้อยในรายงานประจำเดือนในวันศุกร์นี้ ขณะที่สต๊อกข้าวสาลีโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
USDA รายงานยอดขายส่งออกข้าวสาลีของสหรัฐฯ ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 4 ก.ย. อยู่ที่ 305,400 ตัน โดยอยู่ที่ระดับต่ำสุดของช่วงคาดการณ์ของตลาดที่ 300,000-650,000 ตัน
สัญญาข้าวโพดและถั่วเหลืองปรับตัวขึ้น ขณะที่นักลงทุนปรับสถานะการลงทุนก่อนการรายงานผลผลิตการเกษตรของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งจะเผยแพร่ในวันศุกร์นี้ โดยรายงานดังกล่าวได้รับการจับตาเป็นพิเศษเกี่ยวกับการคาดการณ์ผลผลิตข้าวโพดและถั่วเหลืองของสหรัฐฯ
USDA จะเผยแพร่รายงานอุปสงค์และอุปทานโลกประจำเดือนในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่า USDA จะปรับลดคาดการณ์ผลผลิตข้าวโพดและถั่วเหลืองของสหรัฐฯ หลังจากช่วงปลายฤดูร้อนที่มีสภาพอากาศแล้งจัด
ผลผลิตข้าวโพดระยะต้นที่ออกมาต่ำกว่าคาดยังคงช่วยหนุนราคา แต่ผู้ค้าระบุว่า การเก็บเกี่ยวเพิ่งอยู่ในช่วงแรกเท่านั้น ขณะเดียวกันการส่งออกข้าวโพดสหรัฐฯ ที่คึกคักช่วยพยุงตลาด และทำให้ราคาปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์เมื่อสัปดาห์ก่อน
อย่างไรก็ดี ความต้องการจากจีนที่ซบเซาอันเป็นผลจากสงครามการค้ากับสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มของตลาดถั่วเหลือง โดยนักวิเคราะห์บางรายคาดว่า USDA อาจปรับลดประมาณการการส่งออกถั่วเหลืองของสหรัฐฯ ในปีการตลาด 2568/2569 ในรายงานวันศุกร์นี้
เกษตรกรสหรัฐฯ สูญเสียรายได้จากการขายถั่วเหลืองไปแล้วหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากจีนลดการนำเข้าในช่วงฤดูกาลขายหลักของผลผลิตถั่วเหลือง