ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันอังคาร (16 ก.ย.) สัญญาธัญพืชปิดบวกทั้งกระดาน โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งทำให้ธัญพืชของสหรัฐฯ มีราคาน่าดึงดูดและสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ดีขึ้น ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในวันพุธ (17 ก.ย.)
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 6.25 เซนต์ หรือ +1.48% ปิดที่ 4.2950 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 9.00 เซนต์ หรือ +1.71% ปิดที่ 5.3400 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 7.00 เซนต์ หรือ +0.67% ปิดที่ 10.4975 ดอลลาร์/บุชเชล
สัญญาข้าวโพดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 เดือน ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับปริมาณผลผลิตที่แท้จริงของสหรัฐฯ แม้ว่ากระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) จะคาดการณ์ว่าผลผลิตปีนี้จะสูงเป็นประวัติการณ์ แต่รายงานผลการเก็บเกี่ยวเบื้องต้นจากเกษตรกรกลับชี้ให้เห็นว่าผลผลิตต่อไร่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศแห้งแล้งและโรคพืช
สัญญาถั่วเหลืองได้รับปัจจัยบวกจากความคาดหวังต่อการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้าถั่วเหลืองรายใหญ่ที่สุดของโลก หลังจากมีข่าวว่าผู้นำของทั้งสองประเทศจะสนทนากันทางโทรศัพท์ในวันศุกร์ (19 ก.ย.)
ส่วนสัญญาข้าวสาลีปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง 4 วันทำการ โดยได้รับแรงหนุนจากสัญญาณความต้องการส่งออกที่แข็งแกร่ง หลังจากราคาข้าวสาลีสหรัฐฯ อยู่ในระดับที่แข่งขันได้ ประกอบกับความล่าช้าในการขนส่งจากภูมิภาคทะเลดำ ทำให้โรงโม่แป้งในเอเชียหันมานำเข้าข้าวสาลีจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น