ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันพุธ (1 ต.ค.) สัญญาธัญพืชปิดบวกทั้งกระดาน หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า การที่จีนระงับการซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ จะเป็นประเด็นสำคัญที่สุดในการหารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ซึ่งมีกำหนดจะพบกันภายในราวหนึ่งเดือนข้างหน้า
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.00 เซนต์ หรือ +0.24% ปิดที่ 4.1650 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.25 เซนต์ หรือ +0.25% ปิดที่ 5.0925 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 11.25 เซนต์ หรือ +1.12% ปิดที่ 10.1300 ดอลลาร์/บุชเชล
"เกษตรกรผู้ปลูกถั่วเหลืองของเรากำลังเดือดร้อน เพราะจีนไม่ยอมซื้อสินค้า เพียงเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการ เจรจาต่อรอง เท่านั้น" ทรัมป์โพสต์ผ่านทรูธโซเชียล (Truth Social)
ขณะเดียวกัน ราคาข้าวโพดและข้าวสาลีขยับขึ้นตามทิศทางของราคาถั่วเหลือง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ราคาร่วงลงแตะระดับต่ำสุดใหม่ในรอบหลายสัปดาห์ จากข้อมูลปริมาณผลผลิตคงคลังของสหรัฐฯ ที่อยู่ในระดับสูง
ก่อนหน้านี้ รายงานสต๊อกธัญพืชรายไตรมาสของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) ที่เผยแพร่เมื่อวันอังคาร (30 ก.ย.) เป็นปัจจัยกดดันราคา หลังจากตัวเลขสต๊อกข้าวโพดและข้าวสาลีออกมาสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาถั่วเหลืองถูกกดดันจากความกังวลว่าจีนอาจเลี่ยงการซื้อจากสหรัฐฯ แล้วหันไปนำเข้าจากอเมริกาใต้แทน ในช่วงเวลาที่เกษตรกรสหรัฐฯ กำลังเก็บเกี่ยวผลผลิตรอบใหม่พอดี
การร่วงลงของราคาถั่วเหลืองต่ำกว่า 10 ดอลลาร์ เกิดขึ้นหลังจากวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ กลุ่มหนึ่งให้ความเห็นเมื่อวันพุธว่า จีนไม่น่าจะกลับมาซื้อถั่วเหลืองในเร็ว ๆ นี้ โดยอ้างอิงข้อมูลที่ได้รับจากเดวิด เพอร์ดู เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศจีน
เทรดเดอร์เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จีนได้สั่งซื้อถั่วเหลืองล็อตใหญ่จากอาร์เจนตินา ซึ่งเป็นช่วงที่รัฐบาลอาร์เจนตินาประกาศยกเว้นภาษีส่งออกเป็นการชั่วคราว
อย่างไรก็ดี ตลาดธัญพืชอาจต้องเผชิญกับภาวะขาดข้อมูลจาก USDA ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า หลังหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ต้องปิดทำการชั่วคราว (Government Shutdown) ตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากความขัดแย้งทางการเมืองเรื่องงบประมาณระยะสั้น