ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันจันทร์ (6 ต.ค.) สัญญาถั่วเหลืองปรับตัวลดลง โดยปัจจัยหลักมาจากฤดูเก็บเกี่ยวในประเทศที่กำลังดำเนินไปอย่างคึกคัก ตลอดจนการแข่งขันที่ดุเดือดจากบราซิล และอุปสงค์ที่ซบเซาจากจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.75 เซนต์ หรือ +0.66% ปิดที่ 4.2175 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2.50 เซนต์ หรือ -0.49% ปิดที่ 5.1275 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 0.25 เซนต์ หรือ -0.02% ปิดที่ 10.1775 ดอลลาร์/บุชเชล
บราซิลซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญ กำลังสร้างแรงกดดันต่อราคาสินค้าเกษตรสหรัฐฯ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยข้อมูลล่าสุดชี้ว่า ยอดส่งออกถั่วเหลืองของบราซิลในเดือนก.ย. พุ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 20% นอกจากนี้ การเริ่มต้นฤดูเพาะปลูกใหม่ยังเป็นไปอย่างรวดเร็วที่สุดเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์ ซึ่งส่งสัญญาณว่าผลผลิตในฤดูกาลหน้าจะมีปริมาณมหาศาล ขณะเดียวกัน จีนยังคงปฏิเสธการซื้อสินค้าจากสหรัฐฯ ทำให้ถั่วเหลืองอเมริกันขาดตลาดส่งออกที่สำคัญที่สุดไป
ในทางกลับกัน ราคาข้าวโพดปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยจากการที่เทรดเดอร์เข้าซื้อคืนเพื่อชดเชยการขายชอร์ต (short covering) อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นยังคงเป็นไปอย่างจำกัด เพราะผลผลิตข้าวโพดจากการเก็บเกี่ยวกำลังทยอยเข้าสู่ตลาดในปริมาณมาก และคาดว่าปีนี้จะมีผลผลิตสูงเป็นประวัติการณ์ ส่วนราคาข้าวสาลีปรับตัวลดลง เป็นการพักฐานหลังจากที่ราคาปรับขึ้นติดต่อกันมา 3 วัน
ภาพรวมการซื้อขายเต็มไปด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากนักลงทุนกำลังจับตาดูเหตุการณ์สำคัญ 2 เรื่อง คือ มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกถั่วเหลืองจากรัฐบาลสหรัฐฯ ที่จะประกาศในวันอังคารนี้ (7 ต.ค.) และผลการประชุมระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่จะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนนี้
ริช เนลสัน หัวหน้านักกลยุทธ์ของบริษัท Allendale Inc. ให้ความเห็นว่า "ตลาดค่อนข้างเงียบ เรากำลังรอดูว่ามาตรการช่วยเหลือที่จะประกาศในวันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร ส่วนเรื่องการค้าใหม่ ๆ ก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวเช่นกัน"
สถานการณ์ยิ่งขาดความชัดเจนมากขึ้นในขณะที่หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงปิดทำการ หรือชัตดาวน์ ทำให้ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลยอดขายเพื่อการส่งออกและความคืบหน้าการเก็บเกี่ยวอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่าสหรัฐฯ น่าจะเก็บเกี่ยวข้าวโพดไปแล้ว 29% และถั่วเหลือง 39%